VRANDA มั่นใจ Q4 สดใส! รับธุรกิจโรงแรม-อสังหาฯ ฟื้นตัว
หุ้น VRANDA (SET) | VRANDA | ข่าวหุ้นวันนี้ VRANDA | ข่าวหุ้น บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) | หุ้น VERANDA RESORT PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น VERANDA RESORT PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ VERANDA RESORT PUBLIC COMPANY LIMITED
นายภวัฒก์ องค์วาสิฏฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีรันดา รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ VRANDA เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินงานและแนวโน้มในอนาคตของธุรกิจในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน “Opportunity Day” ว่าในไตรมาส 3/2566 สำหรับธุรกิจโรงแรมมีรายได้เฉลี่ยต่อห้อง/วัน (RevPAR) เติบโต 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ EBITDA อยู่ที่ 61 ล้านบาท ติดลบ 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ส่วนธุรกิจการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มีรายได้อยู่ที่ 34 ล้านบาท เติบโต 9% จากตอนเดียวกันของปีกลาย เพราะเหตุว่าบริษัทฯมีการขายยูนิตในที่สุดของโครงงาน “Veranda Residence Pattaya” สำหรับธุรกิจห้องอาหารแล้วก็เครื่องดื่มยังเป็นส่วนที่คือปัญหาเพราะเหตุว่ามีการติดลบตลอด
ตอนที่ธุรกิจอพาร์เม้นท์พื้นที่บริษัทฯ เน้นย้ำกรุ๊ปลูกค้าชาวไทยอยู่ยังมีการเติบโตใกล้เครียงจากปี 2562 จากนักเดินทางเข้าพักในชะอำ แล้วก็หัวหิน และก็ยิ่งกว่านั้นมั่นใจว่าในตอนไตรมาส 4/2566 จะมีนักท่องเที่ยวคนต่างชาติมากขึ้นมากยิ่งกว่าชาวไทยแน่นอน
“สำหรับซอฟต์พาเวอร์ของไทยที่รัฐบาลช่วยเหลือเป็นแผนระยะยาวของประเทศ โดยบริษัทฯ คาดว่าจะเกิดผลดีต่อการท่องเที่ยวเยอะขึ้น รวมทั้งประเด็นการใช้จ่าย 50,000 บาท ที่จะเข้ามาต้นปีหน้า ซึ่งคาดว่าจะใช้ได้ในส่วนของบริการด้วย โดยส่วนนี้จะสามารถช่วยเหลือธุรกิจของบริษัทฯได้ดิบได้ดี”นายภวัฒก์ กล่าว
นายภวัฒก์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มการจัดการในอนาคตว่าธุรกิจรีสอร์ทปีถัดไป บริษัทฯ มั่นใจว่าจะมีการเติบโต (Organic growth) ส่วนหนึ่งส่วนใดมาจากฐานปีนี้ที่ออกจะต่ำ คร่าวๆสิ้นปีตอนพฤศจิกายน–ธ.ค. จะเริ่มจัดการขยายรีสอร์ทอีก 2 ที่ อย่างเช่นที่จังหวัดภูเก็ต 160 ห้อง และก็สมุย 20 ห้อง ซึ่งจากเดิมที่มีเพียงแค่ 50 ห้อง มากขึ้นแทบ 40% โดยจะได้มองเห็น Full Year Impact ในปีหน้า โดยบริษัทฯ มั่นใจว่าจะมี Organic growth อยู่บ้างเพราะนักเดินทางที่มากขึ้น
สำหรับความก้าวหน้า Veranda Resort Phuket , Autograph Collection มีการก่อสร้างไปออกจะมากมายแล้ว 35%
ในส่วนของการขยาย Rocky’s boutique resort , Veranda Collection Samui จากการพัฒนาพื้นที่เหลือ เริ่มมีการก่อสร้างแล้วโดยคาดว่าจะเสร็จในท้ายปีหน้าทันตอนไฮฤดูกาล ซึ่งเพิ่มมาราว 20 keys
ดังนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แผนการ Pool Villas ที่ชะอำ คาดว่าท้ายปีนี้จะโอน 1-2 ยูนิต ซึ่งจะมาเพิ่มเติมรายได้ในส่วนของปีนี้ได้ รวมถึงของโบราณที่มีการโอนตลอดด้วย ในส่วนของปีถัดไปจะมีรายได้จาก “Veranda Pool Villas Hua Hin Cha Am” อีกทั้งจากที่มีแบ็กล็อกอยู่แล้ว แล้วก็บ้านแบบอย่างที่พึ่งจะเสร็จ คาดว่าน่าจะการเจริญเติบโตของยอดจำหน่ายด้วย โดยบริษัทฯ เชื่อถือว่ารายได้ภายหลังจากนี้จะเข้าขั้นที่ถูกใจ ซึ่ง “Veranda Pool Villas Hua Hin Cha Am” ได้รับเอกสารสิทธิ์รีสอร์ทแล้ว แล้วก็จะเริ่มเปิดในเร็วๆนี้ ซึ่งจะเป็นอีกทั้งบ้านแบบอย่าง แล้วก็ห้องเช่าให้เช่า
ในเวลาที่ส่วนของแผนการ “Veranda Villas & Units Phuket” มีการจองไปกึ่งหนึ่งแล้ว ซึ่งมีคอนโดอยู่ราวๆ 12 ยูนิต แล้วก็สระว่ายน้ำในตัว แล้วก็พูลวิลล่าอีก 6 ยูนิต ซึ่งจะเริ่มทยอยโอนได้ในสิ้นปีหน้า
พร้อมแย้มแผนเปิดตัวแผนการใหม่อยู่บนพื้นที่ขนาดโดยประมาณ 14 ไร่ แบ่งเป็น 2 เฟส ค่าโครงงานราวๆ 2,000 – 2,200 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับทราบรายได้ด้านใน 4 ปี
“บริษัทฯ คาดว่าจะมีการเติบโตจากทั้งยังธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่มาจากนักเดินทางที่มากขึ้น และการขยายห้องที่มากขึ้น และก็จากอสังหาริมทรัพย์ที่เริ่มมีการโอนในไตรมาส 4/2566 ดังนี้บริษัทฯ จะมีการปิดสาขาของ Gram pancake และก็ Pablo Cheese tarts ที่คือปัญหาซึ่งจะช่วยลดการขาดทุนจากกรุ๊ปธุรกิจของกินและก็เครื่องดื่มได้ โดยบริษัทฯ แน่ใจว่าในไตรมาส 4/2566 ผลจากการดำเนินงานของบริษัทฯ จะดีตลอดไปจนกระทั่งปีต่อไป”นายภวัฒก์ กล่าว
ด้านนายวรุต ตันติเตียนโลก ผู้อำนวยการข้างการคลังกึ่งกลาง นักลงทุนสโมสร และก็ผู้ช่วยบริษัท VRANDA เผยถึงส่วนประกอบรายได้ในไตรมาส 3/2566 โดยรูปทรงรายได้หลักมาจากธุรกิจโฮเต็ล คิดเป็นสัดส่วน 78%, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ คิดเป็นสัดส่วน 10%, ธุรกิจห้องอาหารและก็เครื่องดื่ม คิดเป็นสัดส่วน 7% รวมทั้งอื่นๆคิดเป็นสัดส่วน 2%
โดยธุรกิจรีสอร์ทในไตรมาส 3/2566 ปิดอัตราการเข้าพัก (Occupancy rate) ที่ 59% มีอัตราเฉลี่ยต่อห้อง (ADR) ที่ 4,038 บาท ในเวลาที่รายได้เฉลี่ยต่อห้อง/วัน (RevPAR) ที่ 2,373 บาท เติบโตขึ้นนิดหน่อย ส่วนรายได้จากธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ 258 ล้านบาท และก็ EBITDA อยู่ที่ 61 ล้านบาท ซึ่งต้นเหตุสำคัญๆที่ EBITDA ปรับต่ำลง 18% จากตอนเดียวกันของปีกลายเนื่องมาจากค่าสาธารณูปโภค อย่างเช่น ค่าไฟฟ้าที่ปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้น และก็การที่บริษัทฯ มีการว่าจ้างบุคลากรมากขึ้นเพื่อจะมาซัพพอร์ตตอนไฮซีชั่นในไตรมาส 4/2566 แล้วก็ในหน้าปีถัดไป รวมทั้งเพราะบริษัทฯ มีการปิดปรับแก้หอพักที่ศีรษะหินโดยเริ่มมาตั้งแต่ตอนมิถานายน โดยในตอนนี้ปรับแต่งเสร็จสมบูรณ์แล้ว
สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 3/2566 มีการโอนไป 34 ล้านบาท ระหว่างที่มีรายได้รวมปิดที่ 23 ล้านบาท ส่วน EBITDA อยู่ที่ 9 ล้านบาท แม้กระนั้นปัจจุบันนี้อยู่ในระหว่างการทยอยปิดสาขา และก็ปรับเปลี่ยนโครงสร้างต่างๆซึ่งคาดว่าจะเสร็จข้างในสิ้นปีนี้
ในขณะที่ภาพรวมรายได้ในไตรมาส 3/2566 อยู่ที่ราวๆ 329 ล้านบาท แม้กระนั้นขาดทุนสุทธิ 20 ล้านบาท ต้นเหตุมีต้นเหตุมาจากรายจ่ายที่ปรับขึ้นมาส่วนหนึ่งส่วนใดมาจากค่าครองชีพทางด้านการเงิน เพราะตลอดช่วง 1-2 ปีให้หลังดอกแนวนโยบายมีการปรับพฤติกรรมมากขึ้นอย่างสม่ำเสมอ โดยบริษัทฯ เห็นว่าตอนนี้เป็นจุดพีคสูงสุดแล้ว
ดังนี้ ข้อความสำคัญหุ้นกู้ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่นักลงทุนกลุ้มใจนั้น บริษัทฯ ได้มีการออกหุ้นกู้ไปปีที่ผ่านมา ตอนพ.ย.ราวๆ 300 ล้านบาท ซึ่งมีช่วงเวลา 2 ปี 25 วัน โดยจะถึงกำหนดในกุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งหนี้ที่มีดอกเบี้ยโดยมากของบริษัทฯ มาจากแบงค์ นับว่าเป็นสถาบันการเงินใหญ่ โดยบริษัทฯ เห็นว่าหุ้นกู้ของบริษัทฯ มีปริมาณที่ไม่มากมาย และก็รูปทรงหนี้ต่อทุนอยู่ในระดับที่ไม่สูง ก็เลยมีการเสี่ยงที่ออกจะต่ำ รวมทั้งช่วงอายุใกล้ๆถึงกำหนดหุ้นกู้จะเป็นช่วงๆที่บริษัทฯ ทยอยโอนอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นแผนการใหม่ที่ชะอำ และก็แผนการที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งสาเหตุที่ตรงนี้สามารถสร้างกระแสการเงินสดให้กับบริษัทฯ ได้มากพอควรถ้าหากว่ามีเหตุการณ์เร่งด่วนเกิดขึ้น
แหล่งที่มา kaohoon.com
