หุ้น stock-news | ข่าวหุ้น stock-news | ข่าวหุ้นวันนี้ stock-news | stock-news ข่าวล่าสุด | stock-news ข่าวหุ้น ล่าสุด

หุ้น BA (SET) | BA | ข่าวหุ้นวันนี้ BA | ข่าวหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) | หุ้น BANGKOK AIRWAYS PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น BANGKOK AIRWAYS PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ BANGKOK AIRWAYS PUBLIC COMPANY LIMITED


นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า จากการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ขณะนี้สายพันธุ์หลักที่พบยังเป็นโอมิครอน และการติดเชื้อส่วนใหญ่ยังเป็น BA.5 เช่นเดียวกับทั่วโลก อย่างไรก็ดี พบสายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุให้เฝ้าติดตามเพิ่มขึ้น เช่น XBB , BA.4.6 และ BQ.1 โดยแต่ละพื้นที่อาจพบการระบาดสายพันธุ์ที่ต่างกัน เช่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา รายงานแนวโน้มสายพันธุ์ BQ.1, BQ.1.1 เพิ่มมากขึ้น แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าสายพันธุ์ BQ.1 หรือ BQ.1.1 มีความรุนแรงกว่า BA.4 หรือ BA.5

“ข่าวสารที่บอกว่ามีสายพันธุ์ใหม่ ขอรับรองว่าปัจจุบันนี้ยังไม่มีสายพันธุ์ใหม่ โดยยังเป็นสายพันธุ์ย่อยของสายพันธุ์ที่มีการระบาดก่อนหน้าที่ผ่านมา อย่างเช่น เดลตา อัลฟา แกมมา โอมิครอน” นพ.ศุภธุระ กล่าว

สำหรับสายพันธุ์ย่อยที่องค์การอนามัยโลกให้เฝ้าติดตาม โดยในขณะนี้เริ่มเจอในประเทศไทย ดังเช่น

สายพันธุ์ BA.2.3.20 ซึ่งเป็นบุตรหลานของ BA.2 มีการกลายพันธุ์อยู่หลายตำแหน่ง มีทิศทางแพร่เร็ว แม้กระนั้นยังไม่มีข้อมูลความร้ายแรง บัดนี้เจอในไทยแล้ว 2 ราย ทั้งสองหายแล้ว

สายพันธุ์ BA.4.6 มีหลักฐานด้านวิทยาศาสตร์เมื่อเทียบกับสายพันธุ์อื่น อาทิเช่น BA.1, BA.2, BA.4 และก็ BA.5 พบว่ามีลักษณะท่าทางหลบภูเขาไม่ได้ดี เนื่องมาจากภูมิต้านทานของผู้ที่ได้รับวัคซีน หรือติดโรคมาก่อน ลบล้างเชื้อหรือฆ่าเชื้อโรค BA.4.6 ได้ลดลงกว่าครึ่งเดียว แปลว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนหรือเคยติดเชื้อโรคมาจะเห็นผลต่อ BA.4.6 ลดลงไปครึ่งเดียว โดยในเวลานี้เจอในไทยแล้ว 3 ราย

ส่วน AY.103 ซึ่งเป็นบุตรหลานเดลต้า ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ ก็แค่มีตำแหน่งกเงินลายจำพวกที่เพิ่มจากเดลต้าเดิม ซึ่งยังไม่มีหลักฐานแสดงความร้ายแรงที่มากขึ้น และก็มีรายงานเข้าฐานข้อมูล GISAID เพียงแต่รายเดียว ก็เลยขอให้ประชากรไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจ ในส่วนของเมืองไทยยังไม่เจอ

ดังนี้ในตอนอาทิตย์ก่อนหน้านี้ (22- 28 เดือนตุลาคม 65) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เฝ้าระวังตรวจการกลายพันธุ์วัววิด-19 ปริมาณ 143 แบบอย่าง เจอเป็นสายพันธุ์ BA.2 ปริมาณ 5 ราย สายพันธุ์ BA.4 หรือ BA.5 ปริมาณ 118 ราย แล้วก็สายพันธุ์ BA.2.75 ปริมาณ 10 ราย แล้วก็โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ10 ราย

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าดึงดูดหมายถึงเจอ BA.2.75 ถึง 10 ราย ในบางพื้นที่ ซึ่งเดิมบางอาทิตย์เจอเพียงแค่ 3-5 ราย นับว่ามากขึ้น และก็จำเป็นจะต้องติดตามเฝ้าระวังถัดไป โดยอนาคตจะสังเกตดู BQ.1 ว่าจะเพิ่มเสมือนในยุโรป แล้วก็อเมริกาหรือเปล่า ซึ่งควรต้องเพิ่มน้ำยาตรวจเฉพาะเจาะจงต่อสายพันธุ์ BQ ด้วย

โดยสรุปปริมาณสายพันธุ์ย่อยที่น่าดึงดูด รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเจาะจงให้เฝ้าติดตาม ซึ่งเมืองไทยเจอและก็ได้เผยแพร่ในฐานข้อมูล GISAID ยกตัวอย่างเช่น BF.5 เจอ 6 ราย, BF.7 เจอ 2 ราย, BQ.1 เจอ 2 ราย, BE.1 เจอ 5 ราย, BE.1.1 เจอ 2 ราย, BN.1 เจอ 9 ราย, BA.4.6 เจอ 3 ราย, XBB.X เจอ 5 ราย และก็ BA.2.3.20 เจอ 2 ราย โดยข้อมูลดังกล่าวมาแล้วข้างต้นได้รายงานให้กรมควบคุมโรค เพื่อติดตามสืบสวนโรคถัดไป

สำหรับเพื่อการกลายพันธุ์คือเรื่องธรรดาของเชื้อไวรัส รวมทั้งมีการแตกบุตรหลานมากมาย ซึ่งยังไม่มีสัญญาณของความร้ายแรงที่เพิ่มเติมอีกจากธรรมดาอะไร ประกอบกับผู้คนในโลกมีภูมิต้านทานเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังจากการรับเชื้อรวมทั้งการฉีดยา ทำให้อัตราการตายต่ำลง

“สำหรับเมืองไทยยังมีวิธีการป้องกัน ใส่หน้ากาก ล้างมือ เลี่ยงสถานที่คับแคบยังมีความจำเป็นสำหรับการช่วยลดการได้รับเชื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวนี้อาจมีการรับเชื้อมากขึ้น กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และก็โครงข่าย ขอให้ความเชื่อมั่นกับพ่อแม่พี่น้องประชาชนว่า จะปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อวัววิด-19 อย่างเข้มข้น และไม่ลดน้อยถอยลง” นพ.ศุภธุระ กล่าว


แหล่งที่มา kaohoon.com