สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 เม.ย. 2566



ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (4 เม.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกเพื่อสกัดเงินเฟ้อในช่วงที่ผ่านมานั้น อาจส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย

ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,402.38 จุด ต่ำลง 198.77 จุด หรือ -0.59%, ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 4,100.60 จุด ลดน้อยลง 23.91 จุด หรือ -0.58% และก็ดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 12,126.33 จุด น้อยลง 63.13 จุด หรือ -0.52%

ตลาดหลักทรัพย์ยุโรปปิดลบในวันอังคาร (4 เม.ย.) เพราะหุ้นกรุ๊ปพลังงานปรับนิสัยลงจากความวิตกเกี่ยวกับอุปสงค์น้ำมันข้างหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอในสหรัฐ ในเวลาที่ดรรชนีราคาผู้สร้าง (PPI) ของยูโรโซนต่ำลงเป็นเดือนที่ 5 ต่อเนื่องกันในเดือนเดือนกุมภาพันธ์

ดังนี้ ดรรชนี STOXX 600 ปิดที่ 457.34 จุด ลดน้อยลง 0.38 จุด หรือ -0.08%

ดรรชนี CAC-40 ตลาดหลักทรัพย์ประเทศฝรั่งเศสปิดที่ 7,344.96 จุด ลดน้อยลง 1.00 จุด หรือ -0.01%, ดรรชนี DAX ตลาดค้าหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,603.47 จุด มากขึ้น 22.55 จุด หรือ +0.14% แล้วก็ดรรชนี FTSE 100 ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดที่ 7,634.52 จุด ลดน้อยลง 38.48 จุด หรือ -0.50%

ตลาดค้าหุ้นลอนดอนปิดลบในวันอังคาร (4 เม.ย.) โดยถูกบีบคั้นจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ รวมทั้งการตกลงของหุ้นกรุ๊ปน้ำมัน

ดังนี้ ดรรชนี FTSE 100 ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดที่ 7,634.52 จุด ต่ำลง 38.48 จุด หรือ -0.50%

คำสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเพียงแค่เล็กๆน้อยๆในวันอังคาร (4 เม.ย.) ภายหลังจากจีนและก็สหรัฐเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้นักลงทุนหนักใจว่าภาวการณ์ชะลอตัวของเศรษฐกิจบางทีก็อาจจะทำให้เกิดผลเสียต่อสิ่งที่มีความต้องการใช้น้ำมัน รวมทั้งยังได้บังต้นสายปลายเหตุบวกจากการที่กรุ๊ปประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) และก็ประเทศพันธมิตร หรือโอเปคพลัส ประกาศลดกำลังในการผลิตน้ำมันอีกกว่า 1 ล้านบาร์เรล/วันจนกระทั่งปลายปี 2566

ดังนี้ คำสัญญาน้ำมันดิบ WTI มอบเดือนเดือนพฤษภาคม มากขึ้น 29 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 80.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนข้อตกลงน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) มอบเดือนไม่.ย. มากขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 84.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

คำสัญญาทองตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (4 เม.ย.) โดยตลาดยังคงได้เหตุบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ แล้วก็การหล่นลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ

ดังนี้ ข้อตกลงทองตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งเดือนไม่.ย. พุ่งขึ้น 37.80 ดอลลาร์ หรือ 1.89% ปิดที่ 2,038.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดตั้งแต่แมื่อวันที่ 8 มี.ค. 2565

คำสัญญาโลหะเงินมอบเดือนเดือนพฤษภาคม มากขึ้น 1.08 ดอลลาร์ หรือ 4.50% ปิดที่ 25.101 ดอลลาร์/ออนซ์

ข้อตกลงพลาตำหนินัมมอบเดือนเดือนกรกฎาคม มากขึ้น 32.60 ดอลลาร์ หรือ 3.27% ปิดที่ 1,029.00 ดอลลาร์/ออนซ์

ข้อตกลงพัลลาเดียมมอบเดือนไม่.ย. ลดน้อยลง 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 1,455.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆสำหรับในการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (4 เม.ย.) ข้างหลังสหรัฐเผยจำนวนเปิดรับสมัครงานต่ำสุดในรอบเกือบจะ 2 ปี ซึ่งอาจจะเป็นผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย

ดังนี้ ดรรชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดรรชนีวัดการเปลี่ยนแปลงของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในกระเช้าเงิน ต่ำลง 0.5% สัมผัสที่ระดับ 101.5858

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 131.62 เยน จากระดับ 132.37 เยน และก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9059 ฟรังก์ จากระดับ 0.9131 ฟรังก์

ยิ่งไปกว่านี้ ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับวัวรนาประเทศสวีเดน ที่ระดับ 10.2807 วัวรนา จากระดับ 10.3703 วัวรนา แม้กระนั้นแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3458 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3418 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0953 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0895 ดอลลาร์ ในตอนที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสัมผัสที่ระดับ 1.2497 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2409 ดอลลาร์

ตลาดหลักทรัพย์ไต้หวันปิดกระทำการวานนี้ (4 เม.ย.) เนื่องในวันเด็ก

ตลาดค้าหุ้นประเทศอินเดียปิดทำวานนี้ (4 เม.ย.) เนื่องในวันพระราชสมภพของมหาวีระ


แหล่งที่มา kaohoon.com