WTI ร่วงกว่า 2% หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ย ฉุดดีมานด์ลด-จับตาสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ



สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดิ่งลงกว่า 2% หลุดระดับ 80 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ (19 เม.ย.66) ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญภาวะถดถอย และกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

นอกนั้น ราคาน้ำมันยังถูกบีบคั้นจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าสนใจของคำสัญญา โดยการทำให้คำปฏิญาณน้ำมันราคาแพงแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสิทธิ์เงินสกุลอื่น

โดยในเวลา 21:04 น.ตามเวลาของประเทศไทย คำสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) มอบเดือนพฤษภาคม ซึ่งมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ตลาด NYMEX ลบ 1.71 ดอลลาร์ หรือ 2.11% สู่ระดับ 79.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดังนี้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดคะเนที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย 0.25% สำหรับการสัมมนาเดือนเดือนพฤษภาคมเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ปัจจุบัน FedWatch Tool ของ CME Group ชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 88.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% สำหรับเพื่อการสัมมนาวันที่ 2-3 เดือนพฤษภาคม รวมทั้งให้น้ำหนักเพียงแค่ 11.3% ที่เฟดจะคงจะอัตราค่าดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75-5.00%

นายราฟาเอล บอสติเตียนก ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา บอกว่า เขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง ก่อนจะพักการปฏิบัติการด้านดอกเพื่อพิจารณาถึงผลพวงต่อเศรษฐกิจจากการที่เฟดใช้แนวนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน

อย่างไรก็แล้วแต่ นายบอสตำหนิกกล่าวว่า เฟดจะยังไม่ปรับลดอัตราค่าดอกเบี้ยในปีนี้ เพราะเงินเฟ้อยังคงอยู่ในชั้นสูง เมื่อเทียบกับแผนการที่ระดับ 2% ของเฟด ถึงแม้ข้าราชการเฟดหลายรายกำหนดเตือนสำหรับการสัมมนาเดือนมี.ค.ว่าสหรัฐบางทีอาจพบเจอภาวะเศรษฐกิจลดน้อยในปีนี้

คำประกาศดังกล่าวมาแล้วข้างต้นของนายบอสว่ากล่าวกสวนคาดหมายของตลาด ซึ่งเห็นว่าเฟดจะปรับลดอัตราค่าดอกเบี้ย 0.50% ก่อนปลายปี 2566

เวลาเดียวกัน นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักต่อคาดคะเนที่ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยสำหรับเพื่อการสัมมนาเดือนพฤษภาคม ข้างหลังอังกฤษเผยจำนวนเงินเฟ้อสูงขึ้นมากยิ่งกว่า 10% แล้วก็อยู่ในระดับสูงสุดของยุโรปตะวันตก

ก่อนหน้าที่ผ่านมา BoE คาดหมายในเดือนเดือนกุมภาพันธ์ว่า เงินเฟ้อจะชะลอตัวสู่ระดับ 9.2% ในเดือนมี.ค.

ผลการสำรวจปัจจุบันพบว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 97% ที่ BoE จะปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย 0.25% สำหรับในการสัมมนาแนวทางการคลังในเดือนเดือนพฤษภาคม มากขึ้นจากระดับ 82% เมื่อวานนี้

ตลาดจับตาการเปิดเผยสต๊อกน้ำมันดิบของที่ทำการสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ภายหลังที่สถาบันน้ำมันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เผยออกมาว่าสต็อกน้ำมันดิบลดน้อยลง 2.68 ล้านบาร์เรลในอาทิตย์ที่แล้ว


แหล่งที่มา kaohoon.com