MASTER กางแผนพ.ค.เปิด 10 ห้องผ่าตัดใหม่ เล็งปิด M&A ปีนี้ 3 ดีล

หุ้น MASTER (MAI) | MASTER | ข่าวหุ้นวันนี้ MASTER | ข่าวหุ้น บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) | หุ้น Master Style Public Company Limited | ข่าวหุ้น Master Style Public Company Limited | ข่าวหุ้นวันนี้ Master Style Public Company Limited


นางสาวลภัสรดา เลิศภานุโรจ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER โรงพยาบาลด้านศัลยกรรมเสริมความงามภายใต้ชื่อ โรงพยาบาลมาสเตอร์พีช (Masterpiece Hospital) เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาแผนการเข้าซื้อกิจการ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเติบโตและขยายธุรกิจ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาลงทุนธุรกิจเสริมความงามเพิ่มเติม โดยคาดชัดเจนภายในครึ่งปีแรก 2566 และตั้งเป้าหมายภายในปีนี้จะสามารถปิดดีลได้ 3 ดีล โดยแหล่งเงินทุนมาจากเงินที่ได้จากการระดมทุนเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรง (IPO)

ดังนี้บริษัทฯ ยังคงจุดหมายตอน 3 ปีด้านหน้า (ปี 66-68) จะมีรายได้เติบโตเฉลี่ย 40% ต่อปี จากการขยายธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ โดยด้านในเดือนพฤษภาคมนี้บริษัทฯ จะมีห้องผ่าตัดเพิ่มเติม 10 ห้อง รวมเป็น 17 ห้อง และก็มีปริมาณหมอมากขึ้น จากเดี๋ยวนี้มีอยู่ 43 คน ทั้งยังจัดแจงเปิดศูนย์บริการสุขภาพหมอชาย รวมทั้งศูนย์หัตถการด้านผิวพรรณอีกด้วย

นอกเหนือจากนี้บริษัทฯ ยังได้รับผลบุญจากการเปิดประเทศ แล้วก็การฟื้นฟูสภาพของภาคการท่องเที่ยว ซึ่งนำมาซึ่งการทำให้ลูกค้าฝรั่งเริ่มทยอยกลับเข้ามามาใช้บริการของทางโรงหมอมาสเตอร์พีช ซึ่งปัจจุบันนี้มีรูปร่างลูกค้าต่างประเทศมากขึ้นมาแล้วกว่า 20% เป็นต้นว่า กรุ๊ปลูกค้าจากเขมร อาหรับ แล้วก็คนจีน ฯลฯ

ในช่วงเวลาที่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ปรับคาดการณ์รายได้ปี 66 ขึ้น 12% เป็น 1,906 ล้านบาท มากขึ้น 29.6% จากปีกลาย จากการปรับเพิ่ม Utilization rate การใช้ห้องผ่าตัดเป็น 48% จาก 45% เพื่อสะท้อนผลการใช้งบประมาณการตลาดที่มากกว่าคาด และก็เปลี่ยนแปลงราคาค่าสำหรับบริการเฉลี่ยต่อเคสขึ้น 7.5% เป็น 1.2 แสนบาท

พร้อมปรับคาดคะเน GPM ขึ้นจาก 56.8% เป็น 58.0% ตามการเพิ่มขึ้นของราคาเฉลี่ย แต่ว่าปรับเพิ่ม SG&A ขึ้น 29.0% เช่นเดียวกัน เป็น 556 ล้านบาท SG&A/Sales มากขึ้นจาก 25.5% เป็น 29.2% เพื่อสะท้อนกระบวนการทำการตลาดที่มากขึ้นเพื่อรองรับปริมาณห้องผ่าตัดที่มากขึ้น ทำให้วิธีการทำการตลาดอีกทั้ง Online แล้วก็ Offline ยังมีความสำคัญ

ดังนี้ทำให้ประมาณผลกำไรปี 66 มากขึ้น 3.6% เป็น 445 ล้านบาท มากขึ้น 47.7% จากปีกลาย และก็ด้วยการเจริญเติบโตที่ค่อนข้างจะสูงทั้งยังยังมี Upside risk จากการ M&A ที่ยังไม่รวมในคาดการณ์ ก็เลยปรับเพิ่ม PER สำหรับในการประมาณคุณค่าจาก 37 เท่า เป็น 40 เท่า ได้ราคาวัตถุประสงค์ปลายปี 66 ที่ 74 บาท แม้กระนั้นด้วยราคาหุ้นที่ปรับนิสัยขึ้นเร่าร้อนทำให้มี Upside gain จำกัด ก็เลยลดข้อเสนอแนะเป็น TRADING ผู้ไม่มีสถานะเสนอแนะรอคอยซื้อเมื่ออ่อนตัว


แหล่งที่มา kaohoon.com