BGRIM กำไร Q1 โตทะลัก 1,600% เฉียด 400 ล้านบาท รับโรงไฟฟ้า SPP ฟื้นแกร่ง
หุ้น BGRIM (SET) | BGRIM | ข่าวหุ้นวันนี้ BGRIM | ข่าวหุ้น บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) | หุ้น B.GRIMM POWER PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น B.GRIMM POWER PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ B.GRIMM POWER PUBLIC COMPANY LIMITED
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 379 ล้านบาท จาก 34 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤตราคาก๊าซ
ช่วงเวลาที่กำไรทั้งสิ้นส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 399 ล้านบาท ต้นเหตุหลักมาจากการฟื้นฟูสภาพของกรุ๊ปโรงไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรม (SPP) และก็ผลที่เกิดจากการดำเนินงานที่ปรับนิสัยดียิ่งขึ้นของโครงงานโรงไฟฟ้าพลังงานลม โดยสามารถลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงสำหรับในการผลิตกระแสไฟฟ้า (heat rate) เฉลี่ยถึง 4.6% เมื่อเปรียบเทียบกับตอนเดียวกันของปีที่ผ่านมา เนื่องด้วยการเปิดทำงานเชิงการค้าของโครงงานโรงไฟฟ้า SPP เพื่อชดเชยโรงไฟฟ้าเดิมทั้งยัง 5 โครงงาน แล้วก็การแก้ไขความสามารถโรงไฟฟ้าโดยตลอด ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนโดยประมาณ 200,000 ตันต่อปี
สำหรับผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1/2566 บี.กริม เพาเวอร์ ได้เชื่อมเข้าระบบของลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหม่ในประเทศไทย ปริมาณ 12.2 เมกะวัตต์ จากที่มีสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้ารวม 34.4 เมกะวัตต์ ตามจุดหมายการเชื่อมลูกค้าใหม่เข้าระบบตลอดทั้งปีที่ 50-60 เมกะวัตต์ โดยสิ่งที่จำเป็นกระแสไฟฟ้าจำนวนมากมาจากอุตสาหกรรมของกินแล้วก็เครื่องดื่ม กรุ๊ปเหล็ก รวมทั้งกรุ๊ปยางรถยนต์
ยิ่งกว่านั้น ในก.พ. 2566 บี.กริม เพาเวอร์ ยังได้เข้าลงทุนในประเทศอิตาลีโดยการเข้าซื้อหุ้นใน RES Company Sicilia S.r.l. บริษัทผู้พัฒนาแผนการพลังงานหมุนวนในอิตาลี และก็ในมีนาคม 2566 แผนการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อชดเชยโรงไฟฟ้าเดิม เปิดปฏิบัติงานครบอีกทั้ง 5 โครงงาน รวมกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า 700 เมกะวัตต์ และสมรรถนะที่สูงขึ้น
ปัจจุบันในม.ย. 2566 บริษัทย่อยและก็บริษัทร่วมหุ้นปริมาณ 9 บริษัท ของกรุ๊ป บี.กริม เพาเวอร์ ได้รับเลือกเฟ้นเป็นผู้สร้างแล้วก็ขายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานหมุนวนปริมาณ 339.3 เมกะวัตต์ ให้กับรัฐบาลตามประกาศคณะกรรมการดูแลธุรกิจพลังงาน นอกจากนั้น reNIKOLA Holdings Sdn. Bhd. (B.Grimm Malaysia มีหุ้นส่วน 45%) เข้าลงทุนในโครงงานโรงไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์ กำลังในการผลิตรวม 90 เมกะวัตต์ (DC) มีสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้าระยะยาว 21 ปี กับ Tenaga Nasional Berhad (บริษัทสาธารณูปโภคกระแสไฟฟ้าหลักในประเทศมาเลเซีย)
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวอีกว่า บี.กริม เพาเวอร์ ให้ความใส่ใจกับการร่วมแรงกับผู้ช่วยเหลือตลอดมา โดยในก.พ. 2566 บี.กริม เพาเวอร์ สมาร์ท โซลูชั่น ร่วมเซ็นชื่อบันทึกกติกา (MOU) กับ อินโนพาวเวอร์ เพื่อความร่วมแรงร่วมมือด้านของใหม่และก็เทคโนโลยีด้านพลังงานสะอาด มี การเล่าเรียนเทคโนโลยีการสร้างกระแสไฟฟ้าด้วยไฮโดรเจน ปรับปรุงแล้วก็ปรับใช้แพลตฟอร์มการจัดการจัดแจงพลังงานอย่างมีคุณภาพ ส่งเสริมการค้าขายใบสุทธิการสร้างพลังงานหมุนวน (REC) ปรับปรุงองค์ประกอบเบื้องต้นสำหรับการชาร์จรถยนต์กระแสไฟฟ้าสาธารณะ รวมทั้งต่อยอดธุรกิจสิ่งใหม่พลังงานใหม่ๆทั้งยังไทยรวมทั้งต่างแดน นอกจากนั้น ยังร่วมกับบริษัท ติดอยู่โอ อินดัสเตรียล ลงชื่อสัญญาซื้อขายใบสุทธิการสร้างพลังงานหมุนวน (REC) เพื่อช่วยเหลือการสร้างกระแสไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนวนรวมทั้งลดการปลดปล่อยก๊าสคาร์บอนในภาคอุตสาหกรรม
สำหรับแนวทางในปี 2566 บี.กริม เพาเวอร์ จะมุ่งขยายการลงทุนอีกทั้งโครงงานใหม่แล้วก็การเข้าซื้อธุรกิจ อีกทั้งในประเทศรวมทั้งต่างชาติ อาทิเช่น ประเทศเกาหลีใต้ ประเทศญี่ปุ่น มาเลเซีย ทวีปยุโรป และก็ภูมิภาคตะวันออกกลางโดยในส่วนของกำลังในการผลิตจากโครงงานที่เปิดปฏิบัติการแล้วคาดว่าจะมากขึ้นอีก 528 เมกะวัตต์ จาก 3,338ในปลายปี 2565 เป็น 3,866ในปลายปี 2566 จากโครงงานโรงไฟฟ้า SPP เพื่อชดเชยโรงไฟฟ้าเดิม (BGPM2) แผนการโรงไฟฟ้าแบบประสมประสานอู่เรือสะเภาเฟสแรก แล้วก็โรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 แผนการ (BGPAT2&3)
รวมทั้งการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์ในประเทศมาเลเซีย 2 แผนการ (BGMCSB และก็ ISSB) พร้อมตั้งเป้าหมายเพิ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่ เข้าเชื่อมระบบรวม50-60 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้า นอกนั้น ยังให้ความเอาใจใส่สำหรับเพื่อการควบคุมค่าใช้สอยต่างๆโดยจัดการตามแผนควบคุมค่าครองชีพของบริษัท เพื่อมัธยัสถ์ค่าใช้สอยอย่างต่ำ 50-70 ล้านบาท
ในระยะยาว บี.กริม เพาเวอร์ กำหนดจุดมุ่งหมายสู่การเป็นผู้สร้างพลังงานชั้นแนวหน้าสุดยอดแล้วก็ประสบความสำเร็จการก้าวสู่หน่วยงานที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ด้านในปี 2593 การขยายพอร์ตสู่กำลังในการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้าในปี 2573
แหล่งที่มา kaohoon.com
