คอพาดเขียง?



ถ้าพูดกันตามความจริง และยอมเปิดใจรับฟังอย่างมีสติ ก็คงเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยไซด์เวย์ดาวน์ไปอีกนานแสนนาน ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ปัญหาเงินเฟ้อที่ยังไม่ลดลงมาอยู่ในระดับปกติ หรือแม้กระทั่งการเคลื่อนย้ายเงินทุนรอบใหม่ ล้วนเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักลงทุนสถาบันเร่งปรับพอร์ต เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนในตลาดหุ้นไงล่ะคะ

วันนี้เลยจำต้องถามย้ำอีกรอบว่า ดรรชนีจะยืนเหนือ1,500 จุดได้อีกนานเพียงใด? ข้างหลังดรรชนีออกอาการรวนมากเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ซึ่งมองเห็นได้จากดรรชนีโรยราลงเรื่อยจนถึงวานนี้ยืนปิดที่ระดับ 1,521.40 จุด ลบไป 12.14 จุด ด้วยค่าการค้าขาย 4.82 หมื่นล้านบาท ก็เลยแปลงเป็นเรื่องที่น่าสะพรึงกลัวสำหรับผู้ที่เข้าออกช้า บวกกับหุ้นหลายตัวมีลักษณะอาการ “ขึ้นวันสองวันแล้วลงแรง” ทำให้แมงเม่าบางรายจะต้องติดภูเขาแบบไม่ทันตั้งตัวเจ้าค่ะ

แบบอย่างดังที่กล่าวถึงแล้วมองได้จากหุ้น GULF ซึ่งกระเด้งขึ้นแบบสตรองเมื่อต้นอาทิตย์ และก็ทำท่าจะวิ่งกลับไปพบฐานเดิม แม้กระนั้นก็โดนสาดหุ้นออกมาจนได้ ราคาหุ้นเลยหล่นลงเป็นนกปีกหัก ก่อนที่จะปิดไปที่ระดับ 47 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 3.60% ด้วยค่าการค้าขาย 1.51 พันล้านบาทแปลงเป็นช็อตที่ย้ำหัวหมุดให้ทราบอย่างแจ่มแจ้งว่า เมื่อใดที่เกิดการปรากฏฟ้าเปลี่ยนสี ก็ทำให้ทุกๆอย่างไม่สวยหรูอีกต่อไป..อิอิอิ

ขนาดหุ้น CRC มิได้มีหลักสำคัญด้านสังคมที่รุนแรง และไม่ใช่หุ้นที่มีความขัดแย้งกับคนเห็นต่าง ยังถูกสาดทิ้งแบบไม่เห็นหัวดำหัวขาว ย่อมเป็นเครื่องที่ย้ำเตือนว่า นี่ไมใช่ตอนที่แมงเม่าจะต้องเอาคอพิงเขียง นอกจากเป็นนักเล่นชนิดบ้าระห่ำ อันนี้ก็อาจจะจำเป็นต้องปลดปล่อยเขาไป เพราะเหตุว่าไม่เป็นประโยชน์ที่เดี๊ยนจำเป็นต้องไปกีดขวางกลิ่นความรุ่งโรจน์ ข้างหลังราคาหุ้นทรุดฮวบลงมากองอยู่ที่ระดับ 40.50 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 3.60% ด้วยราคาการค้าขาย 683 ล้านบาทน่ะซี

ข้อความสำคัญข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” จำต้องพูดถึงหุ้น STARK เพื่อแสดงนักเล่นกลุ่มบ้าบิ่นมีความคิดกันว่า แม้หุ้นลงมาสัมผัสแถว 0.20 บาท ก็จะเป็นกรุ๊ปแรกๆที่จะกระโดดเข้าเก็บ เพราะว่าร่ำลือกันหนาหูอย่างมากกว่า พ่อแจ่มแจ้งจะเข้ามาแก้ไขปัญหานี้ด้วยตัวเอง และก็เป็นคนนำพาหุ้นตัวนี้กลับสู่ทางเทิร์นอะราวด์ในอนาคต เดี๊ยนดูคือเรื่องของพวกโลกงามเหลือเกินหน่อย เนื่องจากว่าวานนี้หุ้นตกลงมาปิดถึงระดับ 0.18 บาท ลบไป 2.20 บาท หรือลงไป92.45% ด้วยค่าการค้าขาย 1.11 พันล้านบาทแล้วนะคะ

เหมือนกับผู้ที่กระโจนลงไปเล่นหุ้น TRUE แบบไม่สนใจโลกจะหมุนไปทางไหน? ก็เป็นเกมเสี่ยงตายที่นักรู้อยู่เต็มอกว่า ปีนี้ยังขาดทุนบานตะเกียง! แล้วราคาหุ้นจะขึ้นไปได้เช่นไร? เดี๊ยนถึงไม่ได้อยากต้องการจะกล่าวอะไรที่มากกว่านี้ เพราะเหตุว่าชอบบ่นไปเท่าไร ก็อาจจะไม่ช่วยทำให้นักเล่นเปลี่ยนแปลงความคิด ก็เลยอยากที่จะให้นักเล่นประเมินคุ้นเคยว่า การยืนปิดที่ระดับ 6.60 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3.65% ด้วยค่าการค้าขาย 588 ล้านบาท คุ้มกับผลปรากฏว่าไหม?

ส่วนหุ้นอีกตัวที่ทำให้บางบุคคล “หมดเงินแล้ว หมดเงินอีก” คงจะจำเป็นต้องมองดูไปที่หุ้น GPSC ซึ่งกำลังทำโลว์ใหม่ทุกอาทิตย์ กระทั่งไม่เห็นจุดกระดอนกลับอยู่ที่ไหน? มันเกิดเรื่องที่น่ากลุ้มอกกลุ้มใจสำหรับผู้ที่พินิจอยู่ไกลๆเพราะว่ามองจากสัญญาณแนวทางที่ฟ้องว่า oversold มานานแล้ว แต่ว่าราคาหุ้นยังไม่ยินยอมหยุดลง จนกระทั่งวานนี้ลื่นไถลลงมาปิดที่ระดับ 56 บาท ลบไป 2.50 บาท หรือลงไป 4.25% ด้วยค่าการค้าขาย 477 ล้านบาทแบบงี้..เสียหายหลายแสนไหมล่ะค่ะ

หลักสำคัญข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” จะต้องกล่าวถึงหุ้น RCL เพื่อทำให้รู้แนวทางของหุ้นยังเป็นลักษณะไซด์เวย์ดาวน์ แถมราคาหุ้นก็เดินหน้าทำจุดต่ำสุดใหม่ของปีสม่ำเสมอ เดี๊ยนถึงมองดูการยืนปิดที่ระดับ 23.30 บาท ลบไป 0.70 บาท หรือลงไป 2.90% ด้วยราคาการค้าขาย 89 ล้านบาท เปลี่ยนเป็นเรื่องน่าน่ากลัวไม่ใช่น้อย ด้วยเหตุว่าค่าสัญญาณวิธีทุกตัวยังปักหัวลง และก็หลุดทุกเส้นแนวรับสำคัญนะจ๊ะ

ทิ้งท้ายกันที่หุ้น BTG กันเลยดีกว่า เพราะเหตุว่าในขณะที่หุ้นขายหมูขายไก่ตัวอื่นโรยราลง แล้วก็มีใจความสำคัญผ่านตอนพีกกันมาทั้งปวง เปลี่ยนไปเป็นว่า หุ้นตัวนี้ทะยานสวนกระแสเฉย และก็ยังเป็นการบวกสวนตลาดแบบชิลๆ“โมนิก้า” ถึงรู้สึกหนักใจเมื่อมองเห็นราคาหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 28.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.65% ด้วยราคาการค้าขาย 203 ล้านบาท..หรือเดี๊ยนคิดมากเกินความจำเป็น..ก็ไม่เคยทราบสินะ!


แหล่งที่มา kaohoon.com