สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ก.ค.2566



ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (6 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเป็นวงกว้าง หลังจากข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งขึ้น และทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเชิงรุก

ดรรชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,922.26 จุด ลดน้อยลง 366.38 จุด หรือ -1.07%, ดรรชนี S&P500 ปิดที่ 4,411.59 จุด ต่ำลง 35.23 จุด หรือ -0.79% และก็ดรรชนี Nasdaq ปิดที่ 13,679.04 จุด ต่ำลง 112.61 จุด หรือ -0.82%

ตลาดค้าหุ้นยุโรปปิดตกในวันพฤหัสบดี (6 เดือนกรกฎาคม) สู่ระดับค่อนข้างต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เหตุเพราะความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยทั้งโลกส่งผลเสียต่อบรรยากาศการค้าขาย

ดังนี้ ดรรชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 447.22 จุด ตกลง 10.72 จุด หรือ -2.34% ซึ่งเป็นระดับค่อนข้างต่ำสุดตั้งแต่แมื่อสิ้นเดือนมี.ค.

ดรรชนี CAC-40 ตลาดหลักทรัพย์ประเทศฝรั่งเศสปิดที่ 7,082.29 จุด ตกลง 228.52 จุด หรือ -3.13%, ดรรชนี DAX ตลาดค้าหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,528.54 จุด หล่นลง 409.04 จุด หรือ -2.57% รวมทั้งดรรชนี FTSE 100 ตลาดค้าหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,280.50 จุด ตกลง 161.60 จุด หรือ -2.17%

ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนปิดหล่นลงในวันพฤหัสบดี (6 เดือนกรกฎาคม) แตะต้องระดับค่อนข้างต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน โดยปรับนิสัยลงตามแนวทางตลาดหลักทรัพย์ทั้งโลก ด้วยเหตุว่านักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอัตราค่าดอกเบี้ยที่ปรับพฤติกรรมขึ้น รวมทั้งความเชื่อมโยงที่เคร่งเคลียดระหว่างสหรัฐแล้วก็จีนบีบคั้นบรรยากาศการค้าขายด้วย

ดังนี้ ดรรชนี FTSE 100 ตลาดค้าหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,280.50 จุด ตกลง 161.60 จุด หรือ -2.17% ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างต่ำสุดนับจากวันที่ 20 มี.ค.

ข้อตกลงน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเพียงนิดหน่อยในวันพฤหัสบดี (6 เดือนกรกฎาคม) ท่ามกลางการค้าขายที่แปรผัน เนื่องจากว่านักลงทุนเป็นห่วงว่าแนวโน้มอัตราค่าดอกเบี้ยขาขึ้นจะก่อให้เกิดผลเสียต่อเศรษฐกิจแล้วก็ความปรารถนาใช้น้ำมัน

ดังนี้ ข้อตกลงน้ำมันดิบ WTI มอบเดือนเดือนสิงหาคม มากขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 71.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนข้อตกลงน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) มอบเดือนเดือนกันยายน ต่ำลง 13 เซนต์ หรือ 0.17% ปิดที่ 76.52 ดอลลาร์/บาร์เรล

ข้อตกลงทองตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (6 เดือนกรกฎาคม) โดยตลาดถูกบีบคั้นจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ รวมทั้งความไม่ค่อยสบายใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยข้างหลังมีข้อมูลชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงกล้าแกร่ง

ดังนี้ ข้อตกลงทองตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งเดือนสิงหาคม น้อยลง 11.70 ดอลลาร์ หรือ 0.61% ปิดที่  1,915.40 ดอลลาร์/ออนซ์

คำสัญญาโลหะเงินส่งเดือนกันยายน ต่ำลง 51.20 เซนต์ หรือ 2.19% ปิดที่ 22.89 ดอลลาร์/ออนซ์

คำสัญญาพลาว่ากล่าวนัมส่งเดือนตุลาคม น้อยลง 15.30 ดอลลาร์ หรือ 1.65% ปิดที่ 909.70 ดอลลาร์/ออนซ์

คำสัญญาพัลลาเดียมมอบเดือนกันยายน น้อยลง 18.50 ดอลลาร์ หรือ 1.5% ปิดที่ 1,239.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงนิดหน่อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญๆสำหรับการจำหน่ายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (6 เดือนกรกฎาคม) ภายหลังที่แข็งค่าขึ้นเป็นอย่างมากในระหว่างวัน สาเหตุจากกระแสเดาที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ย ข้างหลังมีข้อมูลชี้ว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงหนักแน่น

ดรรชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดรรชนีวัดการเคลื่อนที่ของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในกระเช้าเงิน น้อยลง 0.20% แตะต้องที่ระดับ 103.1636

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 144.1270 เยน จากระดับ 144.6680 เยนในวันพุธ (5 เดือนกรกฎาคม) ช่วงเวลาเดียวกันก็อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.8959 ฟรังก์ จากระดับ 0.8989 ฟรัง์ก แล้วก็อ่อนค่าเมื่อเทียบกับวัวรนาประเทศสวีเดน ที่ระดับ 10.9443 วัวรนา จากระดับ 10.9464 วัวรนา แม้กระนั้นดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3353 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3280 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0881 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0853 ดอลลาร์ ในขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะต้องที่ระดับ 1.2741 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2694 ดอลลาร์


แหล่งที่มา kaohoon.com