SET มีโอกาสฟื้นตัวแต่ Upside ยังจำกัด



InnovestX มองว่า แม้ตัวเลขเศรษฐกิจบางตัวของสหรัฐฯ เช่น ความเชื่อมั่นผู้บริโภค และคำสั่งซื้อสินค้าคงทนจะปรับตัวดีขึ้น แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประเด็นเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะผ่านพ้น ทำให้ความเชื่อมั่นดีขึ้น และจากสายการบินสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารเพื่อสนับสนุนการเดินทาง

(1) การรอตัวจากภาคการสร้างกำลังไปสู่ภาคบริการ

(3) การเสี่ยงด้านเงินเฟ้อคงจะชะลอลงเป็นลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเงินเฟ้อจากภาคการสร้าง ที่จะเริ่มชะลอตัวลงตามราคาเครื่องอุปโภคบริโภคแล้วก็เงินเฟ้อจากจีนที่หดตัว

ส่วนการที่แนวทางแนวทางการคลังของซีกโลกตะวันตกยังคงส่งสัญญาณตึงตัว ในเวลาที่แผนการการคลังในทวีปเอเชีย ตัวอย่างเช่น ประเทศญี่ปุ่น แล้วก็จีน มีทิศทางบรรเทากว่า ทำให้เงินสกุลทวีปเอเชียอ่อนค่าลงร้ายแรงขึ้น รวมทั้งทำให้บาทมีทิศทางอ่อนค่าลงแรงด้วยเหมือนกันสวนภาพตลาดค้าหุ้นไทย

ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์ไทยนั้น InnovestX เห็นว่า หากแม้ SET ได้โอกาสฟื้นข้างหลังปรับนิสัยลงแรงตอนก่อนหน้า แม้กระนั้นยังมี Upside จำกัด เนื่องด้วยมีการเสี่ยงจะต้องจับตาทั้งยังจากเหตุการณ์การบ้านการเมืองไทยข้างหลังตระเตรียมเปิดสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก (4 เดือนกรกฎาคม), การไหลออกของ Fund Flow จากตลาดการคลัง (อีกทั้งตลาดตราสารหนี้สินแล้วก็ตราสารทุน) ทำให้เงินบาทอ่อนค่าซึ่งบางทีอาจกระทบต่อการลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ ทั้งภาพตลาดโลกยังกลุ้มอกกลุ้มใจธนาคารกลางหลายที่ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกสม่ำเสมอซึ่งจะบีบคั้นเศรษฐกิจโลกลดน้อย ด้วยเหตุนี้ยุทธวิธีลงทุนก็เลยเสนอแนะให้ “Selective Buy” ดังต่อไปนี้

1) หุ้นที่คาดผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานไตรมาส 2/66 จะยังเติบโตเจริญเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีกลาย เลือก AOT, BBL, ADVANC, MINT, OSP, BDMS รวมทั้ง BEM

2) หุ้นฐานรากดีซึ่งคาดยังมีสมรรถนะชำระเงินเงินปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปี 2566 มากยิ่งกว่าปีละ 5% เลือก TISCO, LH แล้วก็ AP

3) หุ้นสู้วิกฤติ ซึ่งคาดราคาจะทยอยฟื้นก้าวหน้าใน 1 เดือน ข้างหลังปรับนิสัยลงมาแรงเพราะจบการเลือกตั้งไทยช่วงวันที่ 14 พฤษภาคม 66 เลือก BH, BTS, CHG รวมทั้ง CPALL

4) หุ้นที่คาดได้ผลบุญจากเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่า เลือก AH, NYT และก็ ERW

เวลาที่ตอนสั้นชี้แนะเลี่ยงการลงทุนสำหรับ 1) หุ้นกรุ๊ปโรงไฟฟ้า รวมทั้งกรุ๊ป PTT ออกไปก่อน เนื่องมาจากมีการเสี่ยงหรือความคลุมเครือของส่วนประกอบราคาพลังงานจากหลักการของรัฐบาลชุดใหม่ และก็ 2) หุ้นที่คาดได้รับผลพวงจากการปรากฏเอลนีโญจากกำลังซื้อภาคเกษตรที่ต่ำลง อย่างเช่น กรุ๊ปการค้า (GLOBAL) กรุ๊ปสินเชื่อ (MTC, SAWAD) กรุ๊ปยานยนต์ (SAT, STANLY) กรุ๊ปเครื่องดื่ม (CBG มีต้นทุนน้ำตาลสูง) กรุ๊ปโรงไฟฟ้าพลังน้ำ (CKP) รวมทั้งกรุ๊ปเกษตรรวมทั้งของกิน (CPF, GFPT)

สุกิจ อุดมศรีกุล กรรมการผู้จัดการ สายงานศึกษาค้นคว้า บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด


แหล่งที่มา kaohoon.com