TISCO ตั้งสำรองลด ดันกำไร Q2 โตกว่าคาด 1.85 พันล้าน
หุ้น TISCO (SET) | TISCO | ข่าวหุ้นวันนี้ TISCO | ข่าวหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) | หุ้น TISCO FINANCIAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น TISCO FINANCIAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ TISCO FINANCIAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/66 และงวด 6 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
เวลาที่ บลูมเบิร์ก คอนเซ็นซัส คาดคะเนงบประมาณ TISCO ไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.78 พันล้านบาท น้อยลง 2.4% จากไตรมาสก่อน แล้วก็ต่ำลง 5.3% จากปีกลาย
นายอำนาจชัย พีชะพัฒน์ ประธานข้าราชการบริหารกรุ๊ปทิสโก้ (Mr. Sakchai Peechapat, Group Chief Executive, TISCO Financial Group Public Company Limited) เผยออกมาว่า ในตอนครึ่งแรกของปี 2566 กรุ๊ปทิสโก้มีกำไรทั้งสิ้น 3,646 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกันกับตอนเดียวกันของปีกลายหน้า โดยสินเชื่อขยายตัวได้อย่างอดทนที่ระดับ 5.2% จากความเกี่ยวเนื่องของการเจริญเติบโตในกรุ๊ปสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ รวมทั้งสินเชื่อจำนองทะเบียนรถยนต์
รวมทั้งสินเชื่อรถยนต์มือสอง แล้วก็สินเชื่อรถมอเตอร์ไซค์ บริษัทมีรายได้รวมปรับนิสัยสูงมากขึ้น แม้เงินลงทุนด้านการเงินจะมากขึ้นตามอัตราค่าดอกเบี้ยหลักการ โดยกรุ๊ปทิสโก้รีบขยายกิจการในกรุ๊ปสินเชื่อจำนองทะเบียน ภายใต้แบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ที่เปิดสาขาใหม่มากขึ้นกว่า 100 สาขา รวมทั้งยอดสินเชื่อเติบโตกว่า 12% ในตอนครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยหรูหราหนี้สินที่ไม่ก่อเกิดรายได้ (NPL) ปรับพฤติกรรมมากขึ้นน้อยอยู่ที่ 2.2% ซึ่งบริษัทหรูหราค่าเผื่อสำรองหนี้สินสงสัยจะสูญพร้อมรองรับการเสี่ยงจากทุกต้นเหตุรอบด้าน ในส่วนของรายได้ค่าธรรมเนียมยังมีความอ่อนแอตามสภาวะตลาดทุนโดยรวมที่ยังไม่อำนวย
สำหรับในตอนที่เหลือของปี 2566 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้มากกว่าครึ่งปีแรก โดยทิสโก้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ราว 3.5-4% ด้วยแรงส่งหลักจากการท่องเที่ยวแล้วก็การบริโภคภาคครอบครัวที่มีทิศทางเติบโตดีโดยตลอด แม้กระนั้น ความช้าสำหรับการตั้งขึ้นรัฐบาลทำให้การลงทุนภาครัฐรวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณ
อีกทั้งงบประมาณประจำรวมทั้งงบประมาณลงทุนจะต้องช้าออกไป แนวทางเศรษฐกิจโลกที่บอบบาง ความไม่ถูกกันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ไม่จบสิ้น ตลอดจนการปรับเพิ่มของดอกอย่างรวดเร็วแรงในตลาดโลกที่อาจจะทำให้กำเนิด Unintended Consequences เป็นความเสี่ยงที่จำเป็นต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ในเวลาที่ราคาผลิตภัณฑ์และก็บริการที่ปรับพฤติกรรมสูงมากขึ้นยังเป็นแรงกดดันต่อค่ายังชีพและก็ความรู้ความเข้าใจสำหรับในการใช้หนี้ใช้สินของครอบครัวไทย ในสภาวะที่หนี้สินครอบครัวโดยรวมอยู่ในระดับที่สูงเป็นต้นว่าในตอนนี้
“อย่างไรก็แล้วแต่ กรุ๊ปทิสโก้ยังคงเดินหน้าสร้างจังหวะการเจริญเติบโตในธุรกิจที่ช่ำชอง ตามหน้าที่ที่เน้นการเจริญเติบโตด้วยความมั่นคงยั่งยืน ผ่าน 3 กลไกหลักเป็น“Passion” สิ่งที่พวกเราตั้งใจ “Professional” สิ่งที่พวกเรามีความชำนิชำนาญ และก็ “Social” เป็นสิ่งที่ตอบปัญหาสังคมได้ โดยมีตลาดหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายแจ่มชัดเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งทันกระแสความเคลื่อนไหวของโลก รวมทั้งร่วมเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดสำหรับการขจัดปัญหาหนี้สินภาคครอบครัวไทย ด้วยการเข้าไปช่วยชาวไทยคิดแผนทางด้านการเงินอย่างเอาจริงเอาจังในทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยสร้างจุดร่วมของสินค้ารวมทั้งบริการที่มากมายมาดูแลลูกค้า ครอบคลุมอีกทั้งการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่รองรับสังคมคนแก่โดยบริบูรณ์ ที่ตอบปัญหาครบทั้งยัง Wealth Creation แล้วก็ Wealth Protection การออกแบบบริการให้แก่ลูกค้ารายใหญ่แบบองค์รวม (Total Solutions) โดยยิ่งไปกว่านั้นในลูกค้ากรุ๊ปพลังงานรวมทั้งอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการรีบขยายสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ เพื่อเพิ่มจังหวะการเข้าถึงสินเชื่อในระบบแก่ชุมชนรวมทั้งธุรกิจรายย่อย ตามหลัก Responsible Lending แล้วก็การแก้หนี้สินภาคครอบครัวอย่างยั่งยืนเพื่อไม่ให้เป็นหนี้เป็นสินเรื้อรัง (Persistent Debt) ผ่านการรวมหนี้สิน เพื่อลดภาระหน้าที่ดอกให้แก่ลูกค้า ฯลฯ”
สำหรับผลที่เกิดจากการดำเนินงานของกรุ๊ปทิสโก้สำหรับไตรมาส 2 ปี 2566 บริษัทมีกำไรทั้งสิ้นปริมาณ 1,854 ล้านบาท มากขึ้น 0.3% จากไตรมาส 2 ปี 2565 โดยรายได้จากการทำงานปรับพฤติกรรมดียิ่งขึ้น 4.1% จากการเจริญเติบโตของธุรกิจการให้สินเชื่อ ซึ่งทำให้รายได้ดอกสุทธิมากขึ้น 10.1% จากตอนเดียวกันของปีกลายหน้า ถึงแม้ว่าเงินลงทุนทางด้านการเงินจะเพิ่มสูงมากขึ้นกว่า 91.8% ตามแนวทางดอกขาขึ้นในตลาด ในเวลาที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกน้อยลง 8.8% เพราะว่าความเปลี่ยนแปลงรวมทั้งซบเซาของตลาดทุนเป็นหลัก ยิ่งไปกว่านี้ ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ยังอ่อนตัวลงนิดหน่อย ในส่วนของรายจ่ายสำหรับการปฏิบัติการปรับนิสัยมากขึ้น 12.2% โดยมากเป็นค่าครองชีพที่เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนตามแนวทางเติบโตในระยะยาวของบริษัท เวลาที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss – ECL) อยู่ในระดับที่ถือว่าต่ำที่ 0.1% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ยตามการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจจากตอน COVID-19 โดยบริษัทยังคงมีเงินสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตอยู่ในระดับค่อนข้างสูง พร้อมรองรับต่อการเสี่ยงต่างๆที่อาจจะมีการเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยอัตราส่วนเงินทุนสำรองหนี้สูญต่อหนี้สินที่ไม่ทำให้เกิดรายได้ (Loan Loss Coverage Ratio) ที่ 224.0%
สำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 กำไรทั้งสิ้นมีปริมาณ 3,646 ล้านบาท ทรงตัวจากครึ่งปีแรกของปี 2565 โดยรายได้ดอกสุทธิเติบโต 8.7% ตามการเจริญเติบโตของเงินให้สินเชื่อ ในเวลาที่รายได้ที่ไม่ใช่ดอกต่ำลง 3.5% จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจหลักทรัพย์ ผลกำไรจากเงินทุน แล้วก็ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ส่วนค่าครองชีพสำหรับในการปฏิบัติงานมากขึ้น 10.6% จากค่าใช้สอยลงทุนต่างๆดังนี้ บริษัทมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) สำหรับครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ 17.6%
เงินให้สินเชื่อรวมของกรุ๊ปทิสโก้ในวันที่ 30 เดือนมิถุนายน 2566 มีปริมาณ 230,494 ล้านบาท มากขึ้น 5.2% จากปลายปี 2565 จากการขยายตัวของสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ สินเชื่อจำนองทะเบียน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสอง และก็สินเชื่อเช่าซื้อรถเครื่อง โดยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่สามารถเติบโตได้อย่างกล้าแกร่งกว่า 26.5% ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ส่วนสินเชื่อจำนองทะเบียนผ่านวิถีทาง “สมหวัง เงินสั่งได้” เติบโตสม่ำเสมอ 12.1% ตามการเปิดโครงข่ายสาขาที่มากขึ้นโดยตลอด ในส่วนของสินเชื่อที่ไม่ทำให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 2.2% ของสินเชื่อรวม มากขึ้นน้อยจากปลายปีก่อนหน้า ตามอุบายการขยายสินเชื่อไปในกรุ๊ปที่มีอัตราผลตอบแทนสูง โดยบริษัทยังคงดำเนินแผนการการควบคุมคุณภาพทรัพย์สินอย่างเข้มงวด และก็การจัดการการเสี่ยงอย่างรัดกุม
แบงค์ทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่กล้าแกร่ง โดยมีคาดการณ์อัตราเงินกองทุนต่อทรัพย์สินเสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 23.0% สูงขึ้นมากยิ่งกว่าอัตราเงินกองทุนอย่างน้อย 11.0% ที่ระบุโดยธนาคารชาติ และก็มีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 แล้วก็ชั้นที่ 2 ต่อทรัพย์สินเสี่ยงอยู่ที่ 19.5% และก็ 3.6% เป็นลำดับ
แหล่งที่มา kaohoon.com
