โบรกชู BCH-CHG ท็อปพิก “กลุ่มรพ.” อานิสงส์ “ไข้เลือดออก” ระบาด ดันรายได้ Q3 โตเด่น

หุ้น CHG (SET) | CHG | ข่าวหุ้นวันนี้ CHG | ข่าวหุ้น บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) | หุ้น CHULARAT HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น CHULARAT HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ CHULARAT HOSPITAL PUBLIC COMPANY LIMITED


“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับหุ้นที่ได้รับประโยชน์จาก “ฤดูฝน” อย่างกลุ่ม “โรงพยาบาล” ที่ได้รับอานิสงส์จากรายได้การรักษาประชาชนที่เจ็บป่วยตามฤดูกาล ทั้งไข้หวัด ไข้เลือดออก รวมทั้งโรคผิวหนังอื่นๆ

ดังนี้ หุ้นที่น่าดึงดูดและก็คาดว่าจะมีรายได้เติบโตจากหลักสำคัญดังกล่าวมาแล้วข้างต้นจะเป็นหุ้นที่ให้บริการลูกค้าประกันสังคมเป็นหลัก เช่น บริษัท กรุงเทวดาดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS, บริษัท กทม. ศาสนาเชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH แล้วก็ บริษัท โรงหมอจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHG

โดยโรงหมอที่มีลูกค้าประกันสังคมเข้ามาใช้บริการสูงสุดอาทิเช่น BCH ราว 980,000 คน ต่อมาเป็น BDMS ราวๆ 700,000 คน แล้วก็ CHG ราวๆ  528,000 คน ตอนที่หุ้นไอพีโอสมาชิกใหม่ที่เพิ่งจะเข้าตลาดอย่าง บริษัท หมอรังสิตเฮลท์สนใจกลุ่ม จำกัด (มหาชน) หรือ PHG มีลูกค้าประกันสังคมสัมผัส 156,000 ราย

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด กำหนดในบทวิจารณ์ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ว่า เสนอแนะ “ซื้อ” หุ้น BDMS ราคาจุดมุ่งหมาย 33.80 บาท ประเมินผลกำไรไตรมาส 2/66 อยู่ที่ระดับ 2,910 ล้านบาท เติบโต 9% จากปีกลาย ซึ่งมาจากรายได้กรุ๊ปลูกค้าต่างประเทศที่เติบโต

ตอนที่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด เจาะจงในบทวิจารณ์ คาดเดาผลกำไรธรรมดาไตรมาส 2/66 ของ BDMS ที่ระดับ 2.9 พันล้านบาท โต 10% จากปีกลาย โดยคาดรายได้ที่โต 8% จากปีกลายมาจากทั้งยังผู้ป่วยในประเทศที่คาดโต 5% จากปีกลาย และก็เกินระดับ pre-covid 23% แล้วก็ผู้เจ็บป่วยต่างแดนคาดโต 20% จากปีกลาย และก็เกินระดับ pre-covid 7%

ส่วนแนวโน้มผลกำไรไตรมาส 3/66 จะมากขึ้นอีกทั้งจากไตรมาสก่อนรวมทั้งปีกลาย จากนักเดินทางตะวันออกกลางเป็นจำนวนมากที่จะเข้ามาไทยข้างหลังตอนรามาดอน ซึ่งจะหนุนให้มีโมเมนตัมของ Medical Tourist สูงมากขึ้นในตอนไตรมาส 3 รวมทั้งเป็นไฮฤดูกาลของไทย ในตอนที่ราคาตอนนี้เทรด P/E ที่ 32 เท่า ต่ำลงมากยิ่งกว่าค่าถัวเฉลี่ย 5 ปีที่ 34 เท่า ราคาวัตถุประสงค์ 34.50 บาท ชี้แนะ “ซื้อ”

ในขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (เมืองไทย) เจาะจงในบทวิจารณ์ ว่ายัหาองบประมาณวกกับกรุ๊ปโรงหมอ จากปริมาณผู้เจ็บป่วยฝรั่งที่มากขึ้น และก็แพลตฟอร์มโรงหมอที่แข็ง สำหรับผู้ป่วยในประเทศ อีกทั้งกรุ๊ปที่จ่ายเงินสด แล้วก็ประกันสังคม ยังคงให้น้ำหนักหุ้นกรุ๊ปโรงหมอที่ Overweight โดยยังคงเลือก BDMS เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มนี้ รวมทั้งตีราคาจุดมุ่งหมาย DCF ปี 66 ที่ 36.50 บาท

ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ดีที่ปรึกษาความงามส วิคเคอร์ส กำหนดในบทวิจารณ์ ตีราคาให้รากฐานหุ้น BCH ที่ 19 บาท คาดกําไรสุทธิไตรมาส 2/66 ดียิ่งขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยประธานคงจะวัตถุประสงค์รายได้ปีนี้ที่ 12.7-13 พันล้านบาท น้อยลงจากปี 65 ที่ 18 พันล้านบาท รวมทั้งคาด GPM ไว้ที่ 32% ซึ่งดีมากยิ่งกว่าข้อสมมติ

ด้าน GPM ผ่านจุดต่ำสุดมาแล้วในไตรมาส 1/66 ที่ 27.6% โดยประเมิน GPM ปี 66-67 ไว้ที่ 30.4%-31.4%โดยสาเหตุผลักหลักเป็นผลขาดทุนของโรงหมอที่เปิดใหม่ 3 ที่

ส่วนผลกำไรไตรมาส 2/66 คาดดียิ่งขึ้นจากไตรมาสก่อน แม้ว่าจะเป็นโลว์ฤดูกาล ได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการขึ้นราคาเต็มไตรมาสสำนักงานประกันสังคมมอบเงินทดแทนโรงหมอเพิ่ม 10.2% ส่งผลตังแต่ว่าพฤษภาคม66 เวลาที่รายได้วัววิดกลับมาบางส่วน รวมทั้งผู้เจ็บป่วยฝรั่งมากขึ้น

พร้อมคาดผลประกอบการช่วงหลังของปีนี้ดียิ่งขึ้นเทียบเคียงลกับครึ่งปีที่ล่วงเลยไป จากรายได้คนป่วยประกันสังคมมากขึ้น สำนักงานประกันสังคมมอบเงินทดแทนโรงหมอเพิ่ม 10.2% รายได้คนเจ็บฝรั่งดียิ่งขึ้น แล้วก็ปรับขึ้นอัตราคาบริการและก็ยา

อย่างไรก็ดี บทวิจารณ์บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน เจาะจงในบทวิจารณ์อีกว่า ในตอนไตรมาส 3/66 หุ้นในกรุ๊ปโรงหมอจะมีรายได้สูงสุดของปี เพราะการระบาดของหลายๆโรคในฤดูฝน (ต่อมทอนซิลอักเสบ, ไข้หวัดใหญ่, มือเท้าปาก, ไข้เลือดออก, ตาแดง จากสถิติพบว่าปริมาณคนไข้ไข้หวัดใหญ่จะน้อยที่สุดในไตรมาส 2 แล้วก็เยอะที่สุดในไตรมาส 3 ในช่วงเวลาที่ผู้เจ็บป่วยคนตะวันออกกึ่งกลาง รวมทั้งตลาดใหม่ๆเดินทางมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น

รวมทั้งลูกค้าจีนมาใช้บริการ IVF มากขึ้น ข้างหลังรัฐบาลเมืองปักกิ่งอนุญาตให้รายจ่ายที่เกี่ยว IVF รวมใน รับรองเบื้องต้น เมื่อวันที่ 1 เดือนกรกฎาคม เชื่อหุ้นกรุ๊ปหลักที่กำลังจะได้ผลบุญจาก เรื่องนี้เป็น บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH, บริษัท โรงหมอพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9, BDMS รวมทั้งจะรับทราบรายได้เต็มไตรมาสจากการที่ SSO ขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัว (เพิ่ม 10% เป็น 1,808 บาท/คน/ปีเริ่ม 1 เดือนพฤษภาคม) ซึ่ง BCH และก็ CHG จะได้ผลบุญเยอะที่สุด

ช่วงเวลาที่ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เจาะจงปีนี้โรคไข้เลือดออกมีลักษณะท่าทางระบาดหนักสุดในรอบ 3 ปี โดยเดือนมกราคม-เดือนพฤษภาคม23 เมืองไทยมีคนเจ็บปริมาณ 18,173 ราย มากยิ่งกว่าตอนเดียวกันปีกลาย 4.2 เท่า เป็นการระบาดสูงสุดในรอบ 3 ปี มีคนตาย 15 ราย เฉลี่ยมีคนเจ็บอาทิตย์ละ 900 ราย เสียชีวิตอาทิตย์ละ 1 ราย เจออัตราเจ็บป่วยสูงสุดหมายถึงกรุงเทพมหานคร, ภาคใต้ รวมทั้งภาคกึ่งกลาง สำหรับฤดูไข้เลือดออกจะสูงมากขึ้นในเดือน กรกฎาคมถึงเดือนตุลาคม ของทุกปี


แหล่งที่มา kaohoon.com