BA อัพรายได้ปีนี้ทะลุ 1.6 หมื่นล้าน เป้า “คอนเซนซัส” 18.02 บาท

หุ้น BA (SET) | BA | ข่าวหุ้นวันนี้ BA | ข่าวหุ้น บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) | หุ้น BANGKOK AIRWAYS PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น BANGKOK AIRWAYS PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ BANGKOK AIRWAYS PUBLIC COMPANY LIMITED


นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA เปิดเผยว่า ล่าสุด BA ได้ปรับเป้าหมายผลการดำเนินงานปี 2566 ใหม่ โดยเพิ่มเป้ารายได้เป็น 16,000 ล้านบาท จากเป้าเดิม 15,000 ล้านบาท และมีอัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Load factor) เฉลี่ยเพิ่มเป็น 78% จากเป้าเดิม 76% ปรับราคาตั๋วโดยสารเฉลี่ยเพิ่มเป็น 3,700 บาทต่อที่นั่ง จากเป้าเดิม 3,400 บาทต่อที่นั่ง เนื่องจากความต้องการเดินทางสูงส่งผลให้ราคาตั๋วโดยสารสูงขึ้น และประเมินว่าทั้งปีนี้ BA จะขนส่งผู้โดยสารกว่า 4.4 ล้านคน

“ภาพรวมการท่องเที่ยวตั้งแต่ต้นปีมีสายการบินเข้าไทยเพิ่มมากขึ้น สายการบินเดิมก็ปรับเพิ่มเที่ยวบินมากเพิ่มขึ้น หากแม้บางสายการบินจะกลับมาไม่ถึง 100% แต่ว่า Load Factor เข้ามาสูงมากขึ้น ตัวอย่างเช่น สายการบินแถบตะวันออกกลาง และก็ในครึ่งปีข้างหลังคงจะมากขึ้นอีก ส่งได้ผลประกอบกิจการในครึ่งปีข้างหลังดีมากยิ่งกว่าครึ่งปีแรก รายได้ผู้โดยสาร Load Factor คาดไม่น้อยกว่า 80% ราคาตั๋วคงจะยืนอยู่ในชั้นสูงได้” นายความมั่งคั่งวงศ์วาน กล่าว

ส่วนต้นสายปลายเหตุที่มีการปรับเพิ่มวัตถุประสงค์ผลที่ได้รับจากการดำเนินงานดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น เนื่องจากว่าผลประกอบการตอนครึ่งปีแรกของปี 2566 (เดือนมกราคม-ไม่.ย. 2566) สูงขึ้นมากยิ่งกว่าที่เคยคาดคะเนไว้มากมาย โดยมีกำไรทั้งสิ้น 1,544.8 ล้านบาท มากขึ้นจากตอนเดียวกันของปีกลายที่ขาดทุนสุทธิ 1,867.5 ล้านบาท มีรายได้รวม 10,704.8 ล้านบาท มากขึ้น 156% มีผู้โดยสารที่ 2.02 ล้านคน มากขึ้นจากตอนเดียวกันของปีกลายที่มีผู้โดยสาร 9 แสนคน มี Load Factor เฉลี่ยสูง 81.4% จากปีกลายเฉลี่ยอยู่ที่ 71.6% ภายหลังจากเหตุการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสวัววิด-19 เลิกลง นักเดินทางก็ฟื้นเร็วอย่างสม่ำเสมอ

ช่วงเวลาเดียวกัน แน่ใจว่าผลประกอบการตอนครึ่งปีข้างหลังนี้ (กรกฎาคม-เดือนธันวาคม 2566) จะเติบโตดียิ่งกว่าตอนครึ่งปีแรกแน่ๆ เนื่องจากตอนต้นปีที่ล่วงเลยไปเป็นตอนที่ธุรกิจการบินแล้วก็นักเดินทางเริ่มฟื้น เพียงพอถึงตอนครึ่งปีข้างหลังก็จะเป็นช่วงๆที่การเดินทางหนักแน่นสุดกำลัง โดยปี 2567 บริษัทมีแผนในการขยายกองบิน โดยจะทยอยเพิ่มเรือบิน

โดย BA จะรับมอบเรือบินแอร์บัส A320 ปริมาณ 2 ลำ ในต้นปี 2567 แล้วก็คิดแผนในตอน 3-5 ปี จะเพิ่มหน่วยบินเป็นกว่า 30 ลำ จากก่อนวัววิด บริษัทมีปริมาณเรือบิน 40 ลำ โดยปัจจุบันนี้มีกองบิน 26 ลำ แบ่งเป็น เครื่องแอร์บัส A320 ปริมาณ 3 ลำ เรือบินแอร์บัส A319 จำวน 13 ลำ รวมทั้งเรือบิน ATR72-600 ปริมาณ 10 ลำ โดยประยุกต์ใช้บิน 20-21 ลำ ที่เหลือคอยซ่อมแซม

สำหรับในกรณีที่รัฐบาลจะดึงตารางการบิน (Slot) จากทัพอากาศมาให้เอกชนใช้นั้น นายความมั่งคั่งวงศ์ พูดว่า จำต้องพินิจพิเคราะห์ว่า Slot ที่ได้มาตรงกับความจำเป็นไหม เพราะเหตุว่าถ้าหากได้ตอนที่มิได้อยากได้ก็ไม่ช่วยอะไร มีความคิดเห็นว่าอยากได้เพิ่ม Slot ซึ่งเป็นช่วงๆขณะที่มีดีมานด์จะมีคุณประโยชน์

ยิ่งกว่านั้น BA ยังได้กลับมาเปิดบริการทางบินเพิ่มหมายถึงกรุงเทวดา-มัลดีฟส์ ซึ่งได้เริ่มให้บริการไปแล้วตั้งแต่ 1 เดือนกันยายนก่อนหน้าที่ผ่านมา ปริมาณ 4 เที่ยวบินต่ออาทิตย์ รวมทั้งเปิดให้บริการทางบินใหม่ปัจจุบันหมายถึงจังหวัดลำปาง-แม่ฮ่องสอน ตอนวันที่ 2 ส.ค.ก่อนหน้าที่ผ่านมา และก็จัดแจงเปิดอีก 1 ทางบินใหม่สู่เกาะสมุย เช่น กรุงเทวดา (ดอนเมือง)-สมุย เริ่มบินวันที่ 29 ต.ค. 2566 พร้อมด้วยกลับไปบินทางสู่จีน 2 ทางเป็นสมุย-ฉงชิ่ง รวมทั้ง สมุย-เฉิงตู อยู่ระหว่างการขอให้มีการอนุมัติกระทำบินจากรัฐบาลจีน คาดว่าจะเริ่มให้บริการได้ในพฤศจิกายนนี้ ซึ่งคงจะสอดคล้องกับขณะที่รัฐบาลไทยมีแผนสำหรับการจะเปิดฟรีวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวคนจีนและก็ประเทศอินเดีย ที่นับว่าเป็นต้นสายปลายเหตุหนุนสำคัญที่จะทำให้นักเดินทางเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นายความเจริญวงศ์ กล่าวเพิ่มถึงแนวทางล้างขาดทุนสะสมของ BA ที่จะเสนอสัมมนาผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เดือนกันยายนนี้ เพื่อขออนุมัติการโอนทุนสำรองโดยชอบด้วยกฎหมายปริมาณ 210 ล้านบาท แล้วก็ส่วนล้ำค่าหุ้นปริมาณ 9,218.84 ล้านบาท เพื่อล้างขาดทุนสะสมที่ปัจจุบันนี้มีอยู่ 13,720 ล้านบาท ซึ่งจะก่อให้ BA มีขาดทุนสะสมน้อยลงเหลือเกิน 4,291 ล้านบาท ว่า สืบไปจากผลประกอบการปี 2566 จะฟื้นดีเลิศ แล้วก็มีกำไรทั้งสิ้นแน่ๆ เวลาที่ผ่านมาจากเหตุการณ์วัววิด-19 ทำให้ผลประกอบการของ BA มีขาดทุนสะสมมากไม่น้อยเลยทีเดียว เมื่อผลประกอบการดียิ่งขึ้น BA ก็เลยอยากล้างขาดทุนสะสมให้ได้มากที่สุด เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นแล้วก็สร้างภาพลักษณ์ที่ดีแก่บริษัท และก็เมื่อผลประกอบการเติบโตมั่นคงและจากนั้นก็จะเริ่มเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้โดยทันที

นายอนวัช ลีละวัฒน์วัฒนา รองผู้ตัดสินผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส สายงานการคลังและก็บัญชี เผยถึงการก่อตั้งบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ท่าอากาศยานการบินกรุงเทวดา (BAREIT) ว่า ในตอน 2 ปีจากนี้ BA มีแผนสำหรับการนำเงินทองท่าอากาศยานสมุยที่เหลือเพิ่มเข้าใน BAREIT

โดยจำเป็นต้องมองความจำเป็นใช้เงินในขณะนั้น รวมทั้งความแข็งแกร่งด้านการจัดการของท่าอากาศยานสมุยที่เหลือดังที่กล่าวผ่านมาแล้ว เพื่อที่ว่าเมื่อนำเข้า BAREIT จะสามารถปฏิบัติการได้ตามแผนการที่แจ้งแก่นัมายากลงทุน โดยปัจจุบันนี้ BAREIT มีรายได้เฉลี่ย 1,000 ล้านบาทต่อปี รวมทั้งคาดว่าตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปรายได้จะเติบโตราว 2% ต่อปี

ช่วงเวลาเดียวกัน BA ยังมีแผนสำหรับการนำท่าอากาศยานของ BA อีก 2 ที่เป็นจังหวัดสุโขทัย รวมทั้งจังหวัดตราด เพิ่มเข้ามาใน BAREIT ด้วย แม้กระนั้นคงจะไม่ใช่ในช่วงเวลาอันใกล้นี้ โดย BA ไม่มีแผนตั้งขึ้นกอง REIT เสริมเติม เพราะว่า BAREIT สามารถขยายการลงทุนเพิ่มได้อย่างสม่ำเสมอจากท่าอากาศยานที่ BA เป็นเจ้าของ

นอกเหนือจากนั้น นายความสมบูรณ์พงศ์พันธุ์ พูดว่า บริษัทยังพึงพอใจลงทุนท่าอากาศยานใน จังหวัดจังหวัดพังงา เพราะว่ามีความคิดเห็นว่าท่าอากาศยานจังหวัดภูเก็ตในตอนนี้มีความยัดเยียดมากมายรวมทั้งเที่ยวบินมีไม่น้อยเลยทีเดียว แต่ว่าก็จำเป็นต้องรอดูว่า บมจ.สนามบินไทย (AOT) จะลงทุนท่าอากาศยานใหม่หรือเปล่า

ด้านความก้าวหน้าโครงงานปรับปรุงท่าอากาศยานอู่เรือสะเภารวมทั้งเมืองการบินภาคทิศตะวันออก ราคา 2.9 แสนล้านบาทนั้น ช่วงนี้ยังอยู่ระหว่างคอยความพร้อมเพรียงในหลายกระบวนการ อย่างเช่น การก่อสร้างรันเวย์ที่ 2 ซึ่งทัพเรือยังไม่เปิดประกวดราคา/ การเริ่มการก่อสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามท่าอากาศยาน โดยควรจะมีการตั้งคณะกรรมการร่วม 3 ข้างหมายถึงข้างที่ทำการคณะกรรมการแนวนโยบายเขตพิเศษภาคพระอาทิตย์อก (สกพอ.)/ คนรับงานแผนการเมืองการบินฯ และก็คนรับงานแผนการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อมสามท่าอากาศยาน โดยพื้นฐานประเมินว่าข้างเมืองจะออกหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) ได้ตอนต้นปี 2567 ซึ่งเฟส 1 (รองรับที่ 12 ล้านคนต่อปี) จะต้องใช้เงินทุนหลักหมื่นล้านบาท โดย BA ใช้เงินลงทุนบริษัท 30% แล้วก็กู้สถาบันการเงิน 70%

รายงานข้อมูลที่ได้มาจาก Refenitiv Consensus คาดคะเนรายได้ปี 2566 ของ BA ที่ 18,785.49 ล้านบาท กำไรทั้งสิ้น 1,444.03 ล้านบาท ราคาจุดหมายเฉลี่ย 18.02 บาท (จาก 4 โบรกเกอร์)


แหล่งที่มา kaohoon.com