EA ปิดร่วง 7% เงินสดลด! เหตุสต๊อก “รถอีวี-แบตเตอรี่” ลั่นทยอยรับรู้คืน Q4

หุ้น EA (SET) | EA | ข่าวหุ้นวันนี้ EA | ข่าวหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) | หุ้น ENERGY ABSOLUTE PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น ENERGY ABSOLUTE PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ ENERGY ABSOLUTE PUBLIC COMPANY LIMITED


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ต.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 41.75 บาท ลบ 3.25 บาท หรือ 7.22% สูงสุดที่ระดับ 44.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 41.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1,803.87 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นที่ปรับนิสัยลง เกิดขึ้นได้เพราะมีสาเหตุเนื่องมาจากการรายงานข่าวของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก บอกว่า จากการที่บริษัท EA รุกธุรกิจยานยนต์กระแสไฟฟ้าแล้วก็แบตเตอรี่ สร้างความรู้สึกกังวลเกี่ยวกับภาระหน้าที่หนี้สินของบริษัท EA รวมทั้งราคาหุ้นบนบอร์ดของ EA ปรับพฤติกรรมลงอยู่ที่ระดับค่อนข้างต่ำสุดในรอบ 3 ปี พร้อมทั้งราคาตลาดที่ลดน้อยลงเหลือ 6.7 หมื่นล้านบาทในวันพฤหัสบดี ( 26 เดือนตุลาคม 66) และก็ต่ำลงมาจากต้นปีถึงตอนนี้ราว 54% ซึ่งเป็นหุ้นที่ปรับพฤติกรรมลงมากสุดในกรุ๊ปบริษัท 131 ที่ในดรรชนี MSCI Southeast Asia

นอกเหนือจากนี้ ทางบลูมเบิร์กระบุว่า EA เป็นบริษัทพลังงานเวียนที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทยจากมาร์เก็ตแคป โดยลงทุนหลายพันล้านบาทเพื่อสร้างโรงงานผลิตใหม่สำหรับแบตเตอรี่ รวมทั้งรถประจำทางกระแสไฟฟ้า เรือเฟอร์รี รวมทั้งรถไฟ ในช่วงเวลาที่รัฐบาลร่วมช่วยเหลือสำหรับการส่งเสริมลดการปลดปล่อยก๊าสปรากฏการณ์เรือนกระจก อย่างไรก็แล้วแต่ การลงทุนแล้วก็การขยายรถยนต์กระแสไฟฟ้าทำให้หนี้และก็รายได้ติดหนี้จากแนวทางการขายสินค้ามากขึ้น ทั้ง ยังมีมุมมองที่ดีต่อรองราคาหุ้นของ EA โดยราคาจุดมุ่งหมายเฉลี่ยอยู่สูงยิ่งกว่าระดับปัจจุบันนี้โดยประมาณ 60%

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ดีที่ปรึกษาความงามส วิคเคอร์ส (เมืองไทย) จำกัด หรือ DBS Vickers Securities (Thailand) บอกว่า มีความรู้สึกกลุ้มอกกลุ้มใจมากเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความสถานะด้านการเงินของ EA โดยมีกระแสการเงินสดจากการดำเนินการติดลบอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันต่อภาระหน้าที่หนี้สินของบริษัทด้วยการกู้ยืมให้สูงมากขึ้น โดยอ้างอิงข้อมูลที่ได้รับมาจาก บลูมเบิร์ก ว่า EA มีบันทึกกระแสการเงินสดอิสระต่ำลงราว 6.4 พันล้านบาท ในตอนครึ่งปีแรกก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา ถึงแม้รายได้สุทธิมากขึ้น 82% เป็น 4.48 พันล้านบาท

ช่วงเวลาที่ DBS Vickers กล่าวว่า การขาดดุลเงินสดมีปัจจัยหลักมาจากการลงทุนที่มากขึ้นรวมทั้งยอดลูกหนี้รวม ซึ่งมากขึ้นกว่าสองเท่าจากปีกลายหน้า โดย EA พึ่งพาแนวทางการขายรถยนต์กระแสไฟฟ้าเป็นส่วนมาก ซึ่งอาจจะทำให้กำเนิดการเสี่ยงได้ พร้อมนั้นยังกล่าวว่าหุ้นของ EA นั้น “เต็มราคา” แล้ว

ดังนี้ EA มีแผนในการเพิ่มเงินทุน 60% เป็น 11,000 ล้านบาทในปีนี้ โดยอ้างอิงจากคำแถลงปัจจุบันของบริษัท

ด้านนายวสุ กลมหมดจด รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ EA บอกว่า หนี้สินอาจจะค้างและก็อัตราส่วนหนี้ต่อทุนของบริษัท Energy Absolute ยังอยู่ในระดับที่สามารถกำจัดได้ และก็บริษัทยังรีบขยายการสร้างแบตเตอรี่ที่จะตอบสนองสิ่งที่จำเป็น EV ที่มากขึ้น

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (เมืองไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Daol Securities (Thailand) บอกว่า ความอยากรถยนต์กระแสไฟฟ้าและก็สินค้าแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆจะช่วยส่งเสริมแนวโน้มผลประกอบการของ EA

ด้านนายอมร ทรัพย์สมบัติทวีกุล ผู้ตัดสิน EA บอกว่า ในส่วนของกระแสการเงินสดติดลบ สาเหตุจากการซื้อของเข้ามาสต๊อกมาก ซึ่งได้ผลจากก่อนหน้าได้สร้างโรงไฟฟ้า ก็เลยไม่ต้องสต๊อกของ แต่ว่าเวลานี้จำเป็นที่จะต้องสต๊อกทั้งยังรถยนต์ EV แล้วก็แบตเตอรี่ รวมเป็นปริมาณ 3.5-4 พันล้านบาท นำมาซึ่งการทำให้ส่วนเงินสดอิสระหายไปๆมาๆกขึ้นเมื่อเทียบกับปีกลายหน้า แม้กระนั้นแต่ในไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไปรายได้แล้วก็ผลกำไรจะเข้ามา ในเวลาที่ส่วนสต๊อกก็จะหมุนไปเรื่อย

ยิ่งกว่านั้น ยอดส่งรถยนต์ 40 คันที่ไม่ตรงเรียกตัวเลขที่บริษัทส่งไป 40 คันน่าจะเป็นยอดขึ้นทะเบียนรถยนต์ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับ EA เหตุเพราะบริษัทปฏิบัติภารกิจขาย ส่วน BYD ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้เดินรถยนต์ ในช่วงเวลานี้มีปัญหาเกี่ยวกับการจัดว่าจ้างผู้ขับ เป็นเพราะเหตุว่าผู้ขับไม่พอ แม้กระนั้นยังชำระเงินให้กับ EA ครบตามปริมาณ ส่วนยอดการเขียนทะเบียนรถยนต์นั้นขึ้นกับว่าจะไปเขียนเมื่อใด ซึ่งปราศจากความเกี่ยวพันกับ EA

อย่างไรก็แล้วแต่ ยอดจำหน่ายในไตรมาสที่ 3/2566 ส่วนมากมาจากรถยนต์หัวลากมากยิ่งกว่ารถเมล์ ซึ่งส่งไปแล้วกว่า 200 คัน ไม่ใช่ 40 คันดังที่เป็นข่าว ส่วนยอดจำหน่ายรถเมล์จะมาอยู่ในไตรมาส 4/2566 นี้

“ผลกำไรไตรมาสที่ 3/2566 บางทีอาจต่ำลงนิดหน่อยจาก FX เนื่องด้วยบริษัทจำต้องสั่งสินค้าเข้ามาเพื่อผลิต บวกกับราคาขายรถยนต์ EV ที่จะต้องปรับน้อยลงเนื่องจากว่ามีการแข่งในตลาดที่มากขึ้น อย่างไรก็ดี คาดเดาว่าผลกำไรยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง” นายอมร กล่าวตบท้าย


แหล่งที่มา kaohoon.com