‘สมหวัง เงินสั่งได้-ประกัน’ เรือธง TISCO

หุ้น TISCO (SET) | TISCO | ข่าวหุ้นวันนี้ TISCO | ข่าวหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) | หุ้น TISCO FINANCIAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น TISCO FINANCIAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ TISCO FINANCIAL GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED


เส้นทางนักลงทุน

ท่ามกลางความท้ารอบด้าน แม้กระนั้นกรุ๊ปทิสโก้ หรือ บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกลุ่ม (TISCO) ยังเชื่อถือว่าเดินมาถูกทาง สำหรับเพื่อการยก “สมหวัง เงินสั่งได้” เป็นเรือธงสำหรับการเคลื่อนธุรกิจ และในปีนี้จะมีการส่งเสริมเรือธงใหม่ โน่นเป็น “ธุรกิจคนกลางสัญญาประกันภัย” ให้ขึ้นมามีหน้าที่สำคัญมากขึ้น

กรุ๊ปทิสโก้คิดว่าในปี 2567 นี้ ยังมีสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงรุมล้อมหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาหนี้สินครอบครัวไทย แล้วก็อัตราค่าดอกเบี้ยหลักการ-เงินลงทุนด้านการเงินที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ปัญหาภัยแล้ง ตอนที่เศรษฐกิจไทยยังมีความไม่เที่ยง จากความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกแล้วก็เศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกา จีน แล้วก็ยุโรป

หากแม้ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวก้าวหน้าขึ้นที่ระดับ 3-4% จากการฟื้นฟูสภาพของภาคการท่องเที่ยว ภาคการส่งออกกลับมาเติบโตรวมทั้งการลงทุนภาครัฐ-เอกชนรีบตัวขึ้น ทำให้จำเป็นต้องวางเป้าหมายสำหรับในการบริหารจัดแจงอย่างรัดกุมในทุกด้าน เพื่อรักษาสมดุลสำหรับเพื่อการจัดการความท้าต่างๆ

กรุ๊ปทิสโก้เน้นการเจริญเติบโตอย่างมีคุณภาพ โดยจะขยายสินเชื่ออย่างละเอียด ตั้งเป้าหมายการเจริญเติบโตของสินเชื่อ (Loan Growth) ในตอน 0-10% นับว่าเป็นกรอบที่กว้าง ซึ่งสะท้อนถึงการเสี่ยงแล้วก็ความท้าที่รออยู่ด้านหน้า

การยก “สมหวัง เงินสั่งได้” เน้นย้ำสินเชื่อจำนองทะเบียนรถยนต์เป็นเรือธง เป็นการมุ่งขยายกิจการสินเชื่อรายย่อย ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็เลยวางเป้าขยายสาขาของ “สมหวัง เงินสั่งได้” อีก 200 สาขา ทำให้จะมีสาขารวมเบ็ดเสร็จสูงถึง 850 สาขา เพื่อรักษาตำแหน่งทางการตลาดในธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ เน้นย้ำกรุ๊ปสินเชื่อรถยนต์มือสอง สินเชื่อเพื่อการค้าขาย และก็เกื้อหนุนสินเชื่อรถยนต์กระแสไฟฟ้า (EV)

ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีลูกค้าเป็นกรุ๊ปอสังหาริมทรัพย์ โรงไฟฟ้า รวมทั้งพลังงาน จะใช้คุณลักษณะเด่นของการบริการแบบ Total Solution มาตอบปัญหาทุกความอยากได้ของลูกค้า ดังเช่นว่า การปรับหนี้ระยะสั้นของลูกค้าให้เป็นหนี้เป็นสินระยะยาว ก็เลยคาดว่าในกรุ๊ปธุรกิจสินเชื่อ จะเติบโตได้ในระดับเดียวกับเศรษฐกิจไทย

ในปี 2567 นี้ กรุ๊ปทิสโก้ยังจะปั้นเรือธงใหม่หมายถึง“ธุรกิจคนกลางสัญญาประกันภัย” ปรับปรุงสินค้าที่ตอบปัญหาการวางเป้าหมายบริหารการเสี่ยงของลูกค้าแต่ละกรุ๊ป ตอบปัญหาความประพฤติปฏิบัติของลูกค้าในช่วงปัจจุบัน โดยปัจจุบันได้ประสานมือเป็นผู้ส่งเสริมกับเจนเนอราลี่สำหรับในการออกกรมธรรม์ให้สมควร

ส่วนธุรกิจนายทุนธนกิจรวมทั้งตลาดทุน เน้นย้ำให้บริการการให้คำปรึกษาอย่างผู้ชำนาญแบบองค์รวม ครอบคลุมด้านการวางเป้าหมายการคลัง การลงทุน ความคุ้มครองปกป้องด้านชีวิตและก็สุขภาพ โดยสินค้าด้านการเงินที่เน้นย้ำในปีนี้เป็นเงินออม กองทุนรวม และก็สัญญาประกันชีวิต

ยิ่งกว่านั้น ทิสโก้วางเป้าสำหรับการเพิ่มฐานลูกค้ากรุ๊ป Wealth ไปยังกรุ๊ป Mass Affluent ที่มีเงินฝากรวมทั้งหรือเงินทุนตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป

ประธาน กล่าวว่า จะรักษาความเป็นกรุ๊ปทิสโก้ ก็เลยไม่มีแผนแตกแยกขัดแย้งย่อยบริษัทลูกเข้าลงทะเบียนในตลาดค้าหุ้นฯ แล้วก็จะรักษาการชำระเงินเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ในระดับ 8-9% นับว่าเป็นระดับค่อนข้างสูง ถึงแม้ในยามที่รายได้ลดน้อยลง

ผลประกอบการปี 2566 ของกรุ๊ปทิสโก้ มีกำไรทั้งสิ้น 7,303 ล้านบาท ขยายตัว 1.1% จากปี 2565 จากการเจริญเติบโตของธุรกิจสินเชื่อ รวมทั้งรายได้ดอกสุทธิมากขึ้น ท่ามกลางเงินลงทุนด้านการเงินเพิ่มสูงมากขึ้นถึง 93.9% ตามแนวทางดอกขาขึ้น รวมทั้งการปรับอัตราเงินนำส่งกองทุน FIDF กลับสู่ระดับธรรมดาที่ 0.46% ต่อปี

ในขณะที่ รายได้ที่ไม่ใช่ดอกอ่อนตัวลง 6.4% จากธุรกิจตลาดทุนปั่นป่วนร้ายแรง ค่าธรรมเนียมการค้าขายหลักทรัพย์น้อยลงตามจำนวนการค้าขายในตลาดค้าหุ้นฯ ที่น้อยลงอย่างยิ่ง รวมทั้งการรับทราบผลขาดทุนจากเครื่องไม้เครื่องมือทางด้านการเงินที่วัดค่าเที่ยงธรรมผ่านงบประมาณผลกำไรขาดทุน (FVTPL) ประกอบกับธุรกิจธนาคารพาณิชย์ฟื้นช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าธรรมเนียมจากธุรกิจคนกลางสัญญาประกันภัยที่ชะลอตัวลงตามจำนวนการปลดปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ลดน้อยลง

ส่วนของรายจ่ายสำหรับการดำเนินการมากขึ้น 8.7% จำนวนมากเป็นรายจ่ายที่เกี่ยวกับการลงทุนตามแนวทางเติบโตในระยะยาวของบริษัท ในช่วงเวลาที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss-ECL) อยู่ที่ 0.3% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย มีอัตราส่วนเงินทุนสำรองหนี้สูญต่อหนี้สินที่ไม่นำมาซึ่งรายได้ (Loan Loss Coverage Ratio) อยู่ที่ 189.8% พอเพียงต่อการรอคอยงรับการเสี่ยงในขณะนี้รวมทั้งการคาดเดาในอนาคต ดังนี้มีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) สำหรับงวดปี 2566 อยู่ที่ 17.1%

เงินให้สินเชื่อรวมของกรุ๊ปทิสโก้ในวันที่ 31 เดือนธันวาคม 2566 มีปริมาณ 234,815 ล้านบาท ขยายตัว 7.2% จากปี 2565 จากสินเชื่อบรรษัทขนาดใหญ่เติบโต 33% สินเชื่อรายย่อย โดยยิ่งไปกว่านั้นสินเชื่อจำนองทะเบียน “สมหวัง เงินสั่งได้” มากขึ้นกว่า 25% จากกลยุทธ์เปิดโครงข่ายสาขาทั่วทั้งประเทศ ตอนที่สินเชื่อเช่าซื้อชะลอตัวจากการแข่งขันชิงชัยที่ร้ายแรงในตลาดรถยนต์

สินเชื่อที่ไม่นำมาซึ่งรายได้ (NPLs) มากขึ้นมาอยู่ที่ 2.22% ของสินเชื่อรวม ส่วนหนึ่งส่วนใดเป็นไปตามอุบายการเจริญเติบโตไปยังกรุ๊ปสินเชื่อที่มีอัตราผลตอบแทนสูง ประกอบกับผลพวงจากหนี้สินครอบครัวแล้วก็ค่ายังชีพที่อยู่ในระดับที่ถือว่าสูง

มีอัตราเงินกองทุนต่อทรัพย์สินเสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 22.3% สูงขึ้นมากยิ่งกว่าอัตราเงินกองทุนอย่างน้อย 11.0% ที่ระบุโดยธนาคารชาติ และก็มีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 แล้วก็ชั้นที่ 2 ต่อทรัพย์สินเสี่ยงอยู่ที่ 18.9% รวมทั้ง 3.5% เป็นลำดับ

กรุ๊ปทิสโก้ดำเนินธุรกิจมายาวนานในปี 2567 นี้ ครบรอบ 55 ปีแล้ว โดยวัตถุประสงค์ในก้าวถัดไปของทิสโก้เป็นการเป็น Net Zero Commitment การผลิตความยั่งยืนและมั่นคงทางด้านการเงินเฉพาะบุคคล แล้วก็เพิ่มช่องทางเข้าถึงบริการทางด้านการเงิน


แหล่งที่มา kaohoon.com