EKH-SAFE-GFC อนาคตสดใส! “กระทรวงสาธารณสุข” เตรียมปลดล็อก พ.ร.บ. อุ้มบุญ

หุ้น SAF (MAI) | SAF | ข่าวหุ้นวันนี้ SAF | ข่าวหุ้น บริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน)| ข่าวหุ้นวันนี้ บริษัท เอส.เอ.เอฟ. สเปเชียล สตีล จำกัด (มหาชน) | หุ้น S.A.F. SPECIAL STEEL PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้น S.A.F. SPECIAL STEEL PUBLIC COMPANY LIMITED | ข่าวหุ้นวันนี้ S.A.F. SPECIAL STEEL PUBLIC COMPANY LIMITED


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในปี 2567 กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการกับคู่รักสามีภรรยาที่มีลูกยาก เบื้องต้นจะมีการปรับแก้เกณฑ์กฎหมาย “พ.ร.บ.อุ้มบุญ” ด้วยการเปิดโอกาสให้คู่รักชาวต่างชาติทำอุ้มบุญในประเทศไทยได้ และปลดล็อกให้ผู้หญิงไทยอายุเกิน 55 ปี สามารถให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทนได้ และเปิดทางให้กลุ่ม LGBTQ+ ทำอุ้มบุญได้ ซึ่งทุกกลุ่มต้องเป็นไปตามกฎหมายกำหนด คาดว่าจะส่งผลบวกต่อหุ้นกลุ่มที่ให้บริการเกี่ยวกับผู้มีบุตรยากโดยตรง 3 บริษัท คือ บริษัท เอกชัยการแพทย์ จำกัด (มหาชน) หรือ EKH, บริษัท เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SAFE และบริษัท เจเนซีส เฟอร์ทิลีตี เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ GFC

นพ.อำนาจ เอื้ออาทรมิตร ผู้ตัดสินและก็ผู้อำนวยการโรงหมอ EKH เผยกับ “ข่าวสารหุ้นธุรกิจ” ว่า กรณีกระทรวงสาธารณสุขจะมีการปลดล็อคกพระราชบัญญัติอุ้มบุญ เห็นว่าเมืองไทยค่อนข้างจะมีความพร้อมเพรียง แล้วก็แม้ปลดล็อกเป็นทางการ คงจะทำให้ลูกค้าคนจีนแล้วก็ยุโรปมากมายติดต่อเข้ามาใช้บริการ เนื่องด้วยบริการผู้มีลูกยาก (IVF) ของกรุ๊ป EKH ค่อนข้างจะมีชื่ออยู่แล้ว

ดังนี้ ยังจะต้องรอดูเนื้อหากฎที่ต้องปฏิบัติตามที่ผ่านออกมาก่อน แต่ว่าภาพรวมคิดว่าจะมีผลบวกอย่างแน่แท้ รวมทั้งศูนย์ผู้มีลูกยากของกรุ๊ป EKH มีความพร้อมเพรียงรองรับการบริการได้สุดกำลัง ทั้งยังในส่วนของคนไทยรวมทั้งชาวต่างประเทศ โดยในปี 2567 บริษัทมีเป้าหมายให้บริการราวๆ 200-300 เคส ซึ่งในเดือน เดือนมกราคม-เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ปริมาณเคสยังขยายตัวดี

เวลาที่ ที่มาของข่าวจากบริษัท SAFE เผยกับ “ข่าวสารหุ้นธุรกิจ” ว่า กรณีจะมีการปลดล็อก พระราชบัญญัติอุ้มบุญ มองดูได้ผลสำเร็จบวกต่อกรุ๊ป SAFE โดยตรง เพราะ SAFE เป็นผู้ให้บริการการดูแลและรักษาผู้มีลูกยากที่เป็นคนประเทศอื่นในหลายชนชาติ ซึ่งมีรูปร่างกว่า 50% ของเคสทั้งผองเฉลี่ยต่อปี อาทิเช่น จีน ประเทศอินเดีย ภรรยานมา เวียดนาม ประเทศสิงคโปร์ และก็ประเทศญี่ปุ่น ฯลฯ ทำให้มีชื่อเสียงของลูกค้าในหลายประเทศอยู่แล้ว แล้วก็มีอัตราการบรรลุเป้าหมายสำหรับการตั้งท้องสูงเกิน 70%

ส่วนผลจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ปริมาณเคสบริการขยายตัวเจริญ สะท้อนจากเดือน เดือนมกราคม 2567 มีการเติบโตออกจะมากมาย เมื่อเทียบกับตอนเดียวกันของปีกลาย รวมทั้งคงจะช่วยหนุนได้ผลการจัดการอีกทั้งไตรมาสเป็นไปตามจุดหมาย

ส่วนนายกรพัส อัจฉริยมานีข้าล ประธานข้าราชการบริหาร GFC เผยกับ “ข่าวสารหุ้นธุรกิจ” ว่า กรณีจะมีการปลดล็อกพระราชบัญญัติอุ้มบุญ ดูได้ผลบวกต่อกรุ๊ป GFC เหตุเพราะอยู่ในตอนเพิ่มฐานลูกค้าชาวต่างประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้มีการดีลเอเจนซี่จากจีน และก็ประเทศอื่นๆมากขึ้น จากเดิมฐานลูกค้าหลักเป็นคนประเทศไทย และก็มีความรู้ความสามารถสำหรับเพื่อการรองรับคนไข้ทั้งยังคนประเทศไทยรวมทั้งชาวต่างประเทศจะสุดกำลังเยอะขึ้น ข้างหลังตระเตรียมเปิดบริการสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 2 สาขา อย่างเช่น สาขาสุวรรณภูมิ-พระราม 9 แล้วก็สาขาจังหวัดอุบลราชธานี ในตอนไตรมาส 2/2567

ช่วงเวลาที่ แนวทางผลที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 ค่อนข้างจะดีข้างหลังผ่านไป 2 เดือนแรก โดยเหตุนี้มั่นอกมั่นใจรายได้ในปี 2567 จะเติบโตอย่างเป็นจริงเป็นจัง

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรณีกระทรวงสาธารณสุขตระเตรียมปรับแต่งมาตรฐานพระราชบัญญัติอุ้มบุญ ข้างในปี 2567 คิดว่าจะมีผล “บวก” ต่อ SAFE ศูนย์รักษาการมีลูกยากที่กำลังเติบโตสูง คาดผลกำไรโตเฉลี่ย 19% ต่อปี ในปี 2567-2569 เนื่องมาจากเปิดช่องให้คน 3 กรุ๊ป เช่น ปลดล็อกให้หญิงที่แก่เกิน 55 ปี ให้หญิงอื่นอุ้มบุญแทนได้ เสนอให้ชาวต่างประเทศที่เป็นคนต่างชาติทั้งสอง เข้ามารับบริการทำอุ้มบุญในประเทศไทย หรือสามารถใช้หญิงไทยมีครรภ์แทนได้ จากเดิมข้อบังคับบอกว่า หญิงหรือชายควรเป็นคนประเทศไทย แล้วก็เปิดช่องให้กรุ๊ป LGBTQ+ ทำอุ้มบุญได้ แม้กระนั้นควรจะเป็นคู่ควงที่ไม่ผิดกฎหมาย


แหล่งที่มา kaohoon.com