“ทอง” ปิดลบ 8.6 เหรียญ เหตุดอลล์แข็ง-บอนด์ยีลด์พุ่งถ่วงราคาลง



ผู้สื่อข่าวรายงาน สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (18 พ.ย.) โดยถูกกดดันจากการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์แสดงความเห็นเมื่อวันพฤหัสบดี (17 พ.ย.) ว่า เขาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 7% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ดังนี้ ข้อตกลงทองตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งเดือนเดือนธันวาคม ต่ำลง 8.6 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,754.4 ดอลลาร์/ออนซ์ รวมทั้งปรับนิสัยลง 0.9% ในรอบอาทิตย์นี้

คำสัญญาโลหะเงินมอบเดือนเดือนธันวาคม มากขึ้น 2.2 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 20.997 ดอลลาร์/ออนซ์

คำสัญญาพลาว่ากล่าวนัมมอบเดือนเดือนมกราคม น้อยลง 7.2 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 984.3 ดอลลาร์/ออนซ์

คำสัญญาพัลลาเดียมมอบเดือนธันวาคม น้อยลง 71.10 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 1,938.90 ดอลลาร์/ออนซ์

โดยคำสัญญาทองถูกบีบคั้น ข้างหลังดอลลาร์สหรัฐและก็อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับพฤติกรรมขึ้นตอบรับข้อคิดเห็นของนายบูลลาร์ดที่ว่า “หากว่าเฟดได้ปรับขึ้นอัตราค่าดอกเบี้ยขึ้นสู่กรอบ 3.75% – 4.00% ในปีนี้ แต่ว่าก็ยังต่ำยิ่งกว่าระดับที่เฟดเห็นว่ามีการคุมเข้มมากพอที่จะผลักเงินเฟ้อให้กลับสู่แผนการที่ระดับ 2% ซึ่งกรอบอัตราค่าดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับคุมเข้มอย่างมีคุณภาพก็คือ 5% – 7%”

ดรรชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดรรชนีวัดการเปลี่ยนแปลงของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในกระเช้าเงิน มากขึ้น 0.22% สัมผัสที่ 106.9300 ในช่วงเวลาที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นสัมผัสระดับ 3.799% และก็อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปีแตะต้องระดับ 3.902% สำหรับในการค้าขายเมื่อวันศุกร์

ดังนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้คำสัญญาทองซึ่งตั้งราคาเป็นดอลลาร์นั้น ราคาแพงแพงขึ้นและไม่น่าสนใจหัวใจสำหรับนักลงทุนที่ครอบครองสกุลเงินอื่นๆส่วนการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจะเพิ่มทุนค่าพลาดโอกาสสำหรับการถือสิทธิ์ทอง เพราะเหตุว่าทองเป็นทรัพย์สินที่ไม่เป็นผลทดแทนในรูปดอก

อย่างไรก็ดี คำสัญญาทองได้แรงซื้อนิดหน่อยในฐานะทรัพย์สินไม่มีอันตราย ข้างหลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสัมพันธ์คนกลางอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เผยในวันศุกร์ว่า ยอดจำหน่ายบ้านมือสองน้อยลง 5.9% สู่ระดับ 4.43 ล้านยูนิตในเดือนเดือนตุลาคม เมื่อเปรียบเทียบทุกเดือน ซึ่งเป็นระดับค่อนข้างต่ำสุดนับจากเดือนธันวาคม 2554 และก็เป็นการปรับพฤติกรรมลงเป็นเดือนที่ 9 ต่อเนื่องกัน ส่วนเมื่อเทียบเคียงทุกปี ยอดจำหน่ายบ้านตรงลง 28.4% ในเดือนตุลาคม


แหล่งที่มา kaohoon.com