ราชาเงินทุน..ฉบับรีเมค



ก่อนอื่น “โมนิก้า” ขอเผยความในใจที่มีต่อการแถลงข่าวของ ตลท. นายกโบรกเกอร์ และตามติดมาด้วยเสือกระดาษอย่าง ก.ล.ต. แบบใจจริงว่า น้ำท่วมทุ่ง! เพราะไม่ได้แก่นสารอะไรเลยสักอย่าง และยังทำให้นักลงทุน และบรรดาขาเผือกต้องเดาต่อไป เพราะบรรดาเจ้าประคุณรุนช่องที่นั่งหน้าแป้นแล้นออกหน้าจอทีวี ดันเลือกพูดเฉพาะในสิ่งที่ตัวเองอยากพูด ทุกอย่างเลยดูอึมครึมต่อไปนะจ๊ะ

ดังนั้นถึงเปิดโอกาสให้มีเรื่องมีราวราวตลอดทั้งอาทิตย์ระส่ำระสายกันไปหมด ด้วยเหตุว่าบรรดาจอมเปิดโปงขาโหดเหี้ยมก็อุตสาหะเต้าข่าวสารบิ้วอารมณ์แบบสุดลิ่ม แล้วก็ยังมีขาแจมจำพวกผู้ใดกันว่ายังไง..ว่าตามกัน ทำให้ความโชคร้ายทั้งปวงเลยตกมาที่แมงเม่าเต็มๆแล้วก็หัวข้อนี้ก็มองเห็นได้จากปัญหา บล.ทวีปเอเชีย เวลท์ แสดงกริยายักยอกทรัพย์สินลูกค้าเอาไปจ่ายค่าหุ้นระหว่างโบรกเกอร์ยังไงล่ะขา

งานนี้ถือว่าเป็นการตบหน้านายกโบเกลื่อนกลาดฯ อย่าง “พี่โบ้” ฉาดใหญ่กันอย่างยิ่งจริงๆ เพราะเหตุว่าในตอนวันจันทร์ที่แล้ว ซึ่งมีการแถลงข่าวก็มีการตั้งคำถามเกี่ยวกับความเสื่อมโทรมที่เกิดกับโบรกเกอร์มีมากมายน้อยแค่ไหน? แต่ว่าคุณพี่ก็ได้แม้กระนั้นร้อง แบะ..แบะ ตลอดการแถลงข่าว และก็การกระทำที่ถูกใจร้อง แบะ..แบะ ก็ดำเนินสม่ำเสมอถึงวันพุธ และไม่เว้นกระทั่งวันศุกร์ จนถึงแมงเม่าที่นั่งดูการถ่ายทอดสดบนวิถีทางยูทูบของ “ข่าวสารหุ้น” เย้าแหย่กันเป็นการใหญ่ในทำนอง “ถามโค ตอบ..” นะจะบอกให้

ว่ากันไปแล้ว! เรื่อง MORE มหาประลัย ก็เปรียบได้เสมือนดั่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2520 หรือโดยประมาณ 45 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในขณะนั้นคนภายในแวดวงเรียกกัน “วิกฤติราชาเงินลงทุน” ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจ “เงินลงทุนรวมทั้งหลักทรัพย์” ซึ่งไม่ได้ต่างอะไรจากธุรกิจการคลังทั่วๆไปสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะเกิดเรื่อง “ตั๋วคำสัญญา”  แล้วก็ “ปลดปล่อยสินเชื่อ” แถมยังเป็นบริษัทที่ลงบัญชีอยู่ในตลาดค้าหุ้นไทยเสียด้วยเจ้าค่ะ

โดยจุดที่เป็นไฮไลท์ของ “ราชาเงินลงทุน” อยู่ตรงที่ราคาหุ้นเมื่อตอนเข้าตลาดค้าหุ้นก็อยู่แถว 275 บาท แม้กระนั้นต่อจากนั้นก็ปรับนิสัยขึ้นอย่างรุนแรง พร้อมทั้งขึ้นไปทำราคาแพงสุดที่ระดับราคา 2,470 บาท ภายในช่วงระยะเวลาเพียงแค่ปีเดียว โดยสาเหตุที่เป็นตัวรีบให้บริษัทเติบโตอย่างเร็วก็มาจากการรีบปลดปล่อยสินเชื่อในแบบต่างๆแบบจัดเต็มทุกกระบวนท่า กระทั่งลืมหลักเกณฑ์งานที่โปร่งใสทุกขั้นตอนพะย่ะจ้ะ

เมื่อเงินสินเชื่อที่ถูกปลดปล่อยออกไปไม่มีการ “ควบคุม” รวมทั้ง “ตรวจตรา” ที่เอาจริงเอาจัง ก็เลยทำให้จำนวนเงินที่ถูกปลดปล่อยออกไปถอยกลับเข้ามาในตลาดค้าหุ้น ทั้งๆที่จำนวนเงินดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วน่าจะไหลเข้าไปยังแนวทางการทำธุรกิจโดยตรง และก็ที่เลวไปกว่านั้นก็เป็น ราชาเงินลงทุนดันตั้งบริษัทลูกของตนขึ้นมา กับมีการปลดปล่อยกู้ไม่ยั้งกันอย่างยิ่งจริงๆ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้เอาจำนวนเงินดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้นมาซื้อหุ้นแม่แทนที่จะไปลงทุนนะนายค่ะ!

ผลดังกล่าวข้างต้นทำให้ “ราชาเงินลงทุน” เปลี่ยนเป็นบริษัทเงินลงทุนยักษ์ใหญ่ชั้น 2 ของเมืองไทย ซึ่งผู้คนต่างเอ่ยถึงกันอย่างใหญ่โต แม้กระนั้นท้ายที่สุดงานฉลองย่อมมีวันเลิกรา เพราะว่าบริษัทเริ่มมีปัญหาสภาพคล่อง เนื่องจากจำนวนเงินที่ถูกปลดปล่อยออกมาถูกประยุกต์ใช้ไม่ถูกจุดมุ่งหมาย จนกระทั่งส่งผลให้บริษัทไม่มีสติปัญญาจะหารายได้มาจ่ายและชำระหนี้ รวมทั้งได้ผลสำเร็จให้ตลาดค้าหุ้นฯ จะต้องสั่งหยุดการค้าขาย เพื่อเปิดช่องให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาควบคุมบริษัทนะจ๊ะ

งานนี้หากบอกให้เข้าใจง่ายๆก็คือบริษัทล้มละลาย แล้วก็ในกลางทางก็สร้างผลพวงกับหุ้น “เงินลงทุนรวมทั้งหลักทรัพย์” ตัวอื่นอย่างหนักหนา เนื่องจากนักลงทุนพากันกำเนิดอาการแพนิก จนถึงส่งผลให้เกิดการเทขายหุ้นกรุ๊ปการคลังตัวอื่นอย่างมาก โดยไม่สนใจว่าราคาหุ้นจะลงหนักเพียงใด? เนื่องจากว่าทราบเพียงแค่สิ่งเดียวว่า จำต้องขายหุ้นเพื่อเอาเงินของตนเองออกมาให้ได้มากสุดเท่าที่ทำเป็นนะนายจ้ะ!

หัวข้อข้างต้นก็เลยคล้ายกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับหุ้น MORE เพราะว่าถ้าหากเทียบจะมีความเห็นว่า “โบรกเกอร์” ก็คือ “ราชาเงินลงทุน” ส่วนในรายของ “ปิงปอง” ก็คือ “บริษัทลูก” ที่กู้หนี้ยืมสินโบเกลื่อนกลาดฯ มาซื้อหุ้นตนเอง โดยมีตัวดำเนินเรื่องที่สร้างความน่าเชื่อถือเป็นราคาหุ้นมอร์ “โมนิก้า” เลยไม่ประหลาดใจที่ผลพวงคราวนี้จะขยายแย่ลงกว่าเดิม ด้วยเหตุว่าทุกคนมองเห็นกันแล้วว่า ฝีเริ่มแตก! เดี๊ยนก็เลยขอเม้าท์เรื่องข้างหลังบ้านของโบรกเกอร์ที่พึ่งจะไปเผือกมาในวันพรุ่ง..รอดูกันนะ..การันตีเผ็ดจี๊ดจนถึงจะต้องซี๊ดปากกันอย่างยิ่งจริงๆจ้ะ


แหล่งที่มา kaohoon.com