หุ้นไทยแกร่งสุดในปฐพี?
แม้ว่าเดี๊ยนจะเกิดอาการมึนงงไปชั่วขณะหนึ่ง เมื่อเห็นตลาดหุ้นไทยบวกสวนเฟดที่ประกาศกร้าวจะขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ ตลอดปีนี้ เพราะต้องการกดเงินเฟ้อให้ลดลงสู่ระดับ 2% “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับการเคลื่อนตัวของตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้ เพราะมันจะทำให้เงินไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปเรื่อย ๆ และจะทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงในลักษณะ “ไซด์เวย์ดาวน์” นะจะบอกให้
แม้กระนั้นกลายเป็นว่า ตลาดค้าหุ้นไทยไม่ยี่หระกับหลักสำคัญดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วแม้กระทั้งเล็กน้อย ข้างหลังตลาดค้าหุ้นไทยวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,593.65 จุด บวกไป 8.57 จุด ด้วยราคาการค้าขาย 4.94 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ตลาดค้าหุ้นไทยกำลังพยามเป็นอิสระจากอิทธิพลต่างถิ่น แล้วก็ทำให้การกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,600 จุดไม่ใช่เรื่องฝันเฟื่องอีกต่อไป พร้อมนั้นก็ทำให้ “โมนิก้า” จะต้องปรับมุมมองเกี่ยวกับแนวคิดที่เคยเรียนใหม่หมดเจ้าค่ะ
เพราะเหตุว่าตลาดหลักทรัพย์ไทยทำตรงกันข้ามกับสิ่งที่เคยทราบมาทั้งผอง ก็เลยทำให้เดี๊ยนไม่รู้เรื่องว่า การขึ้นท่องเที่ยวนี้ได้ผลทาง “จิตวิทยา” หรือเกิดเรื่อง “มันนี่เกม” และก็ชมรมโดยตรงกับเรื่อง “เบื้องต้น” แค่ไหน? ก็เลยขอพักเรื่องหุ้นขนาดใหญ่ไว้ชั่วครั้งชั่วคราว เพื่อคอยให้ทุกๆอย่างนอนก้น ขอหันไปเม้าท์ถึงหุ้นช่องทางที่มีลัษณะทิศทางขึ้นใหม่ รวมทั้งมีสตอปรี่เกี่ยวกับการโกรทในตอนไตรมาส 2 แล้วกันนะจ๊ะ
โดยยิ่งไปกว่านั้นในรายที่แกว่งไกวตัวขึ้นลงในวงรอบเดิมๆแล้วก็ส่งผลงานช่วยประกันแวลูของตัวหุ้น “โมนิก้า” คงจะมองดูไปยังหุ้นของกินสุนัขแมวอย่าง ITC เป็นรายแรก เนื่องจากท่องเที่ยวก่อนที่จะตกจากไอพีโอ 32 บาท ก็ไหลลงมาทำโลว์ที่ระดับ 25 บาท ถัดจากนั้นก็กระดอนกลับขึ้นไปพอๆกับไอพีโอ “โมนิก้า” เลยทายใจว่า การขยับตัวขึ้นมาปิดที่ระดับ 27 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยราคาการค้าขาย 106 ล้านบาท คงจะอย่างกับท่องเที่ยวก่อนๆนะคะ
ส่วนรายที่แปลงเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ มีแรงซื้อเข้ามาตลอดเป็นวันที่ 5 “โมนิก้า” เขมรองไปที่หุ้น TGE ภายใต้การกุมบังเหียนของ “พงศ์พันธุ์นรินทร์” ก็มีสตอปรี่ให้ตามมองได้เรื่อยเพราะว่าเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่อยู่ในโหมดโกรทเต็มกำลังนับจากครึ่งปีข้างหลัง เดี๊ยนถึงอยากที่จะให้แฟนๆทดลองประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.89 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 5.60% ด้วยราคาการค้าขาย 120 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 18 เท่า แล้วก็ราคาแพงไอพีโอที่ระดับ 2 บาทน่าเล่นไหมเอ่ย?
ข้อความสำคัญดังกล่าวมาแล้วข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องการจะกล่าวถึงหุ้น MENA อีกสักรอบ ด้วยเหตุว่าเป็นหุ้นที่มาด้วยสตอปรี่โกรท แต่ว่าบังเอิญราคามาไวเกินความจำเป็นหน่อย แล้วก็มีบางกลุ่มเข้ามาเล่นแบบดุเดือดไม่เกรงใจผู้ใด เดี๊ยนก็เลยจำต้องถามแฟนๆว่า การขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 2.46 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 2.50% ด้วยค่าการค้าขาย 42 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 34 เท่า โดยที่ปีนี้ยังมีทีเด็ดถูกปลดปล่อยออกมาเรื่อย..มันคุ้มกับการเล่นไหมจ๊ะ
เหมือนกับเหตุการณ์ของหุ้น DITTO ก็มีช็อตให้ตามไปดูเป็นจำนวนมากไล่ตั้งแต่ราคาหุ้นลงเกินครึ่ง ในขณะที่ผลงานก็มาตามนัดที่คิดแผนไว้ และยังรวมไปถึงการได้งานใหม่ๆก็ยังมีให้มองเห็นเป็นระยะ “โมนิก้า” ถึงต้องการที่จะให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 30.25 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 1.70% ด้วยราคาการค้าขาย 48 ล้านบาท ซึ่งมากับสตอปรี่โกรทที่จะเกิดขึ้นในตอนครึ่งปีข้างหลัง รวมทั้งตลอดไปถึงปีต่อไปนั้น..คุ้มสำหรับกับการคอยไหมตนเอง!
คล้ายกับเหตุการณ์ของหุ้นขายยาง NER ก็มีทีเด็ดตรงอัตราผลตอบแทนจากเงินโบนัสที่อยู่ในระดับ 6% แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้ามาทยอยเก็บหุ้นอย่างงี้ “โมนิก้า” ดูคือเรื่องของเหตุการณ์ที่ทำให้ทุกคนจำต้องถอยไปตั้งตัว รวมทั้งรอคอยให้บรรยากาศลงทุนดียิ่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ก็คงจะมีแรงซื้อกลับเข้ามารอบใหม่ ซึ่งจะมีผลให้ราคาปิดที่ระดับ 5.90 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยค่าการค้าขาย 24 ล้านบาท ซื้อได้อย่างมีความสุข เนื่องจากหุ้นเทรดบน PE 6 เท่าเองแรง!
ทิ้งท้ายกับที่คนถูกใจเสี่ยงดีมากยิ่งกว่า เพราะเหตุว่าบรรยากาศมันกระตุ้นให้เจ้ามือจำต้องรีบแสดงพลังภายใน แล้วก็ตัวที่เด่นแซงทุกทางโค้งจะต้องชูให้กับ DTCENT ซึ่งดึงขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.93 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 14.90% ด้วยราคาการค้าขาย 83 ล้านบาทในเวลาอันรวดเร็วทันใจ ก็เลยแปลงเป็นจังหวะของการ follow buy แบบไม่ต้องคิดอะไรให้มากมาย เนื่องจากท่องเที่ยวนี้หุ้นต่ำสิบครอบครองเวทีนะจะบอกให้
แหล่งที่มา kaohoon.com
